'บิ๊กตู่' วอนอย่าก้าวล่วงสถาบัน โดยเฉพาะกลุ่มนศ. ไม่อยากให้เสียอนาคต เผยในหลวงทรงมีพระเมตตาไม่ให้ใช้ ม.112

วันที่ 15 มิ.ย. ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสิ่งที่กังวลที่สุดในขณะนี้คือ การก้าวล่วงสถาบัน ขอร้องทุกคนด้วยในฐานะที่เราเป็นคนไทย อย่าไปเชื่อฟังบิดเบือนการเผยแพร่สิ่งที่สร้างความเกลียดชังที่โยงกันมา

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และต้องมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ กลุ่มคนที่เคลื่อนไหวต้องการ แล้วเราจะทำอย่างไร แล้วเราจะตกเป็นเครื่องมือของคนพวกนี้ทำไม

ส่วนจะเผยแพร่หรือกดเข้าไปดู ก็รู้อยู่ว่าเขา เดินหน้าในช่วงนี้หนักขึ้นเพื่ออะไร หรือใกล้วันอะไรซักอย่างหรือไม่ ส่วนเรื่องไหนที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ก็คือต่างประเทศ มีใครจะกล้าเข้าไปทำแบบนั้นบ้าง รวมถึงพี่ประเทศไทยก็ยังมีการทำเช่นนี้เลย ก็ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรสักคน เพราะกฎหมายทุกตัวยังมีอยู่ ทั้งนี้ต้องทำให้ทุกคนสบายใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ไม่อยากให้ต้องมาเสียอนาคต ซึ่งตนเองก็ไม่เคยไปขู่คนกลุ่มนี้เลย

“แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่คนจะต้องสำนึก ในเรื่องการบิดเบือนสถาบัน ซึ่งเดิมนั้นมีมาตรา 112 ก็ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ใช่ไหม และสิ่งที่อยากจะบอกคนไทยทุกคน วันนี้จะเห็นได้ว่า มาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตา ไม่ให้ใช้อยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำให้แล้ว แล้วคุณก็มาละเมิดกันเรื่อยเปื่อย อย่างนี้แล้วหมายความว่าอย่างไร ต้องการอะไร”

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ตนจำเป็นจึงต้องพูด เพียงเพราะต้องการให้ประเทศมีความสงบ ส่วนกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและยุโรป จะดำเนินการได้อย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลก็ทำหนังสือส่ง ไปยังประเทศเหล่านี้ และหากมีอะไรก็จะส่งกลับมาที่ประเทศไทย อย่างไร แต่หากไม่ส่งกลับมาจะให้รัฐบาลทำอย่างไร

ขณะเดียวกันทุกคนก็มากล่าวอ้างว่ามีการส่งคนไปทำสิ่งต่างๆ และจะสามารถดำเนินการได้อย่างไรในต่างประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็มีกฎหมายของแต่ละประเทศไม่มีใครกล้าเข้าไปก้าวล่วง ส่วนคนที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะทำความผิดในประเทศไว้ จึงต้องหลบหนีออกนอกประเทศ แต่บางคนก็ไม่ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะหนีไปทำไมแม้จะมีคดีเพียงเล็กน้อย

อย่างเช่นกรณีล่าสุด การหายตัวไปของนายวันเฉลิม ที่เคยเรียกตัว แต่ไม่ได้มารายงานตัว แล้วหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และไปเคลื่อนไหว และต่อว่าคนจากต่างประเทศ อีกทั้งไปทำธุรกิจด้วย ซึ่งเรื่องนี้ประเทศกัมพูชาก็พร้อมหากมีคนไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และกัมพูชาก็จะสอบสวนให้ ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องแจ้งมาที่ประเทศไทยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ขอความร่วมมือไปทุกประเทศที่คนเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ เพื่อต้องการเป็นผู้ลี้ภัย แต่ตามกติกาแล้วบุคคลเหล่านี้ต้องสำนึก ว่าในเมื่อต่างประเทศให้ที่พักพิงอาศัยแล้ว ก็ไม่ควรจะเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้มีปัญหาในวันข้างหน้า ตนรู้สึกสงสารเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน และก็ไม่ใช่คนใจร้ายจะไปฆ่าใครได้

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า “สำนึกไว้ด้วยว่ามาตรา 112 ทำไมถึงไม่ถูกดำเนินคดี และทำไมถึงมีคนฉวยโอกาสตรงนี้ขึ้นมา เพราะท่านพระมหากรุณาธิคุณ กำชับมาที่ผมโดยตรง ตลอดระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีการใช้ไหม 112 ทำไมไม่คิดถึงตรงนี้ด้วย ก็ลามปามกันไปเรื่อย เพราะฉะนั้นประชาชนที่อยู่ในประเทศที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ต้องช่วยกันโดยเฉพาะลูกหลานของท่าน เพราะประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น การเปลี่ยนแปลงประเทศต่างๆ

ที่ผ่านมา เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงประเทศด้วยความรุนแรงเลย เข้าใจหรือไม่ และหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยในวันนี้ เปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่ แล้วจะเอาตัวอย่างจากเขาทำไม ซึ่งตนเป็นห่วงนิสิต นักศึกษา ทุกคนหากมีพฤติกรรมเหล่านี้ วันหน้าก็จะทำงานยาก เพราะบริษัทห้างร้านก็ไม่อยากรับคนที่มีทัศนคติแบบนี้ เข้าไปทำงานแล้วจะทำอะไรกิน ซึ่งตนเป็นห่วงเขาตรงนี้ เพราะเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่อยู่ที่คนชักนำเขา และสื่อก็ช่วยกันอย่าประโคมข่าวเหล่านี้ออกไป เพราะไปที่อื่นก็จะดูไม่ดี ขอให้ช่วยกัน บ้านเมืองจะสำเร็จได้ด้วยมือพวกเราคนไทยทุกคน”