“ลดเงินเดือน ตกงาน เลิกจ้าง ปิดกิจการ” ฝันร้ายที่ใครหลายคนต้องเผชิญ ท่ามกลางวิกฤติเชื้อมรณะอย่างโควิด-19 เศรษฐกิจผันผวน รายรับสวนทางรายจ่าย จนหลายคนต้องดิ้นรนสู้ชีวิตหาหนทางทำกิน เพราะความจนมันน่ากลัว…
แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ ไล่เรียงเคล็ด(ไม่)ลับ ตกงาน-ลาออก ต้องทำอย่างไรให้ได้เงินชดเชยสูงสุด 2 เด้ง พร้อมวิธีหางาน จาก นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน โดยมีข้อมูลสำคัญหลายประการที่ท่านควรรู้ ดังนี้
เคล็ด(ไม่)ลับ ตกงาน-ลาออก รับเงินสูงสุด 2 เด้ง
- กรณีถูกเลิกจ้าง หรือ โดนไล่ออก
เมื่อท่านตกอยู่ในสถานะถูกเลิกจ้าง และท่านยังงุนงงหาทางตั้งหลักชีวิตไม่ถูก มองไปทางไหนก็มีแต่ทางตัน ท่านสามารถดำเนินการตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ผู้ถูกเลิกจ้างจะต้องไปแจ้งเรื่องขอรับเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (เงินเด้งที่ 1) ตามอัตราที่กฎหมายกำหนดดังนี้
- ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 30 วัน
- ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 90 วัน
- ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 180 วัน
- ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 240 วัน
- ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 10ปี ขึ้นไป จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 300 วัน
2. ขึ้นทะเบียนการว่างงานสำหรับผู้ถูกเลิกจ้างกับกรมการจัดหางาน เพื่อหางานใหม่
3. ขอรับเงินชดเชยจากประกันสังคมกรณีถูกเลิกจ้าง (เงินเด้งที่ 2) โดยจะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย
โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 6 เดือน
- กรณีลาออกจากงาน
1. กรณีลาออก ท่านจะไม่สามารถไปขอรับเงินชดเชยจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้
2. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานกับกรมการจัดหางานเพื่อหางานใหม่ และขอรับสิทธิเงินชดเชยจากประกันสังคมกรณีว่างงานตามอัตราที่ประกันสังคมกำหนด โดยจะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย
โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 3,000 บาท ต่อเนื่อง 3 เดือน
- กรมการจัดหางาน เปิดช่องทางสมัครงาน การันตีได้งานแน่!
สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาการว่างงานช่วงโควิด-19 นายสุชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า “กรมการจัดหางานมีหน้าที่ในการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา ไปจนถึงผู้สูงอายุ และเรามีสำนักงานจัดหางานอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ"
"ปัจจุบันกรมการจัดหางาน มีตำแหน่งงานรองรับทั้งหมดประมาณ 55,000 อัตรา โดยจะเชื่อมโยงทั่วประเทศ ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะอยู่จังหวัดใดหากสนใจจะทำงานในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ ก็สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางาน หรือแม้กระทั่งงานพาร์ทไทม์ก็มีตำแหน่งงานรองรับเช่นกัน โดยมีตำแหน่งว่างทั้งหมดประมาณ 4,000 ตำแหน่ง ณ ขณะนี้"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการซักประวัติของผู้สมัครงานว่า เคยมีทักษะประสบการณ์ด้านใด หรือทำงานอะไรมาก่อน ที่สำคัญคืออยากจะทำงานในตำแหน่งใด ที่ไหน และค่าตอบแทนเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะประมวลจากตำแหน่งงานที่กรมจัดหางานมีข้อมูล เพื่อจัดหางานที่เหมาะสมให้แก่ท่าน ที่สำคัญไม่มีวุฒิการศึกษาก็สามารถสมัครได้
เมื่อผู้สมัครตัดสินใจเลือกตำแหน่งงานได้แล้วก็จะทำการส่งตัวให้เข้าพบนายจ้างเพื่อทำการสัมภาษณ์งานต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเราก็จะทำการติดตามผลการสมัครงานของผู้สมัครทุกรายว่าได้งานหรือไม่อย่างไร โดยหากไม่ได้งาน ทางเจ้่าหน้าที่ก็จะหาตำแหน่งงานอื่นให้ไปเรื่อยๆ จนกว่าได้งาน
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปที่สำนักงานจัดหางาน ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ smartjob ซึ่งจะมีช่องให้กรอกข้อมูลตามขั้นตอน ซึ่งไม่ยุ่งยากยากเย็นแต่อย่างใด
อีกหนึ่งช่องทาง คือ ตู้การจัดหางาน(Job Box) ซึ่งมีทั้งหมด 500 ตู้ทั่วประเทศ โดยจะตั้งอยู่ตามศูนย์การค้า หรือสถานศึกษาต่างๆ ซึ่งภายในตู้ก็จะมีข้อมูลตำแหน่งงานว่างให้ผู้ว่างงานได้ตรวจสอบและสมัครงาน ซึ่งวิธีการใช้งานก็ไม่ยากเย็น เพราะใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น
สำหรับท่านใดมีความสนใจอยากจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมการจัดหางาน 1506.