เชียงใหม่-เจ้าของ เตี้ย มช. พา ถุงเงิน แม่เจ้าเตี้ย มช. พร้อมเจ้าหน้าที่วอชด็อก ทนายความชื่อดัง มาแจ้งความเอาผิดข้อหาลักทรัพย์กับ ตชด.ที่ออกมารับสารภาพก่อนหน้านี้ ว่าพาพี่เตี้ยออกไปแล้วเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2563 เจ้าหน้าที่วอชด็อก และ นายสมศักดิ์ ไชยวงค์ อายุ 72 ปี เจ้าของเตี้ย มช. พร้อมด้วย ดร.สุรินทร์ เมทะนี และทนายความ เดชา กิตติวิทยายันท์ ได้นำ ถุงเงิน อายุ 11 ปี แม่ของเตี้ย มช. มาที่ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ เพื่อเป็นการยืนยันว่า นายสมศักดิ์ เป็นเจ้าของเตี้ย มช. โดยแท้จริง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ได้เชิญคณะทั้งหมดขึ้นไปที่ชั้น 3 เพื่อได้แจ้งความกล่าวหา บุคคลที่ลักพาเตี้ย มช. หรือแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ขึ้นไปให้ปากคำ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียด โดยให้นายสมศักดิ์ เป็นผู้เสียหายในการกล่าวทุกข์ร้องโทษครั้งนี้ ส่วนที่เหลือก็สอบในฐานะพยาน
ทนายความเดชา ได้เปิดเผยว่า ได้นำคุณลุงสมศักดิ์ เจ้าของเตี้ย มช. มากล่าวโทษร้องทุกข์กับผู้กระทำผิดในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ และอีกข้อหา ทารุณกรรมสัตว์ สำหรับข้อหาลักทรัพย์นั้นได้แจ้งข้อหากับบุคคลคนเดียว เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ส่วนข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ก็ต้องดูหลักฐานเพิ่มอีกว่าจะมี 1-2 คนขึ้นไป
ทั้งนี้ ได้พาเจ้าของเตี้ย มช. มาเป็นผู้กล่าวทุกข์ร้องโทษ และนำแม่เจ้าเตี้ย มช. มาด้วยเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ เป็นเจ้าของทรัพย์ หลักฐานในคดีนี้ก็จะมีภาพจากกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อม เป็นแกร็บที่เห็นผู้ต้องสงสัยขับรถผ่าน จึงได้นำมาเป็นพยาน สำหรับคดีทารุณสัตว์ วอชด็อก บอกว่าพบพยานเป็นชาวบ้านได้ยินเสียงปืน ตอนนี้พบพยานที่บอกว่าได้ยินเสียงปืนแล้ว แต่เขาไม่กล้าที่จะมาให้การ ทางเราก็ต้องมีการพูดคุยกับทางผู้กำกับ โรงพัก สภ.ช้างเผือก อีกครั้ง เพื่อนำตัวพยานดังกล่าวมาให้ปากคำ
ด้าน คุณลุงสมศักดิ์ เจ้าของเตี้ย มช. ผมเดินทางมาแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ กับผู้กระทำผิดตามสิทธิ์ ผมทราบข่าวการเสียชีวิตของเตี้ย ผมเสียใจมาก ผมสูญเสียหลานของผมไปก่อนหน้านั้น แล้วมาเสียภรรยาไปอีก มาทราบข่าว เตี้ย มช.เสียชีวิตอีก ยิ่งเสียใจใหญ่เลย หลานผมเสียวันที่ 17 ภรรยาของผมเสียวันที่ 27 แล้วเตี้ย มช.มาเสียวันที่ 7 ลงท้ายด้วยเลข 7 หมดเลย
สาเหตุที่ผมไม่ได้แสดงตัวออกมาเป็นเจ้าของ เพราะตอนนั้นผมได้ผ่าตัดไส้เลื่อน อยู่ระหว่างพักฟื้น หมอไม่ให้ออกไปไหน ทุกครั้งผมจะปั่นจักรยานออกกำลังกาย และจะแวะเวียนไปหาเตี้ยเสมอ ผมมาทราบข่าวเตี้ยหายไปเท่านั้น แต่ยังไม่ทราบข่าวว่าเตี้ยเสียชีวิตในตอนนั้น มาทราบตอนหลังว่าเตี้ยเสีย เสียใจมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วเตี้ย มาอยู่ใน มช.ได้อย่างไร คุณลุงสมศักดิ์ เล่าว่า เมื่อก่อนมีนักศึกษา มช. มาพักหอใกล้ ๆ บ้าน และนักศึกษาก็มาซื้อกับข้าวอะไรบ้างที่บ้านของผม เมื่อก่อนเปิดเป็นร้านขายอาหาร เตี้ยก็อยู่แถวนั้น นักศึกษาก็ให้อาหารมัน บางทีเตี้ย ก็ไปนอนเล่นหน้าเซเว่น นักศึกษาก็ให้อาหารเตี้ย จนคุ้นเคย เตี้ย เมื่อก่อนชื่อว่า ช้าง ต่อมาเตี้ยก็ได้ตามนักศึกษาหญิงเข้าไปใน มช.
แรก ๆ เตี้ย ก็ไปกลับไปกลับ หลังจากนั้นก็ไปนาน ๆ กลับบ้าน ผมก็เคยไปตามบ้าง ก็นำกลับมาบ้าน และเตี้ยก็ไป มช.อีก บางครั้งก็มาอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว หน้า มช. ผมเคยเรียกเตี้ยกลับบ้าน มันก็กลับ ตอนหลังดื้อไม่ยอมกลับ ตนได้นำเชือกมาลากกลับถึงจะยอมก็มี
ต่อมา เตี้ย ก็ขยับไปนอนที่ศาลาธรรม ใน มช. และขยับไปคณะมนุษย์บ้าง คณะคอมบ้าง จนคุ้นเคยกับนักศึกษา ใน มช. และวนไปทั่วเลยใน มช. ปีแรก ๆ เตี้ยยังมีความกลัวบ้าง ที่คณะบัญชี เคยมีนักศึกษานำใส่รถเก๋งไปส่งที่บ้านก็เคยมี เพราะเขารู้จักบ้านของผม
เตี้ย มีพี่น้องจากแม่ถุงเงิน ทั้งหมด 5 ตัว มีตัวผู้ 3 ตัว ผมจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำร้ายเจ้าเตี้ย จนถึงที่สุด เตี้ยนั้นออกจากบ้านไปได้ประมาณ 6-7 ปี และเตี้ย เมื่อเจอผม เตี้ยจำผมได้เสมอ สำหรับแม่ถุงเงินนั้นหลังจากมีข่าวการเสียชีวิตของเตี้ย เหมือนสัญชาตญาณของสัตว์ จะรู้ ระยะหลัง ถุงเงินแม่เตี้ย มช. มักจะซึม และมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว หรือไม่สบอารมณ์บ่อย ๆ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนเลย อาจจะเพราะคิดถึงลูกก็อาจจะเป็นได้