นราธิวาส - ปลดล็อกให้มุสลิมละหมาดที่มัสยิดเป็นวันแรกหลังโควิด-19ระบาด โดยเปิดให้ชาวไทยมุสลิมประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิด โดยให้ยึดตามแนวทางของสำนักจุฬาราชมนตรีและกรมควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เป็นวันแรกจากพื้นที่ จ.นราธิวาส
หลังจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ใช้ดุลยพินิจพิจารณาร่วมกับจังหวัดนราธิวาส โดยสรุปได้มีการผ่อนปรนให้มัสยิด 398 แห่ง จากจำนวนทั้งสิ้น 676 แห่ง อนุญาตให้ชาวไทยมุสลิม สามารถเดินทางเข้าไปประกอบศานกิจละหมาดได้ทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่มัสยิดได้
ที่มัสยิดอัลยุมอียะห์อัลฮาซานียะห์ หรือ มัสยิดเขียว อ.สุไหงโกลก ซึ่งเป็น 1 ใน 398 มัสยิด ที่อนุญาตให้ชาวไทยมุสลิมสามารถประกอบพิธีละหมาดได้เป็นครั้งแรกในวันนี้ พบว่า ที่บริเวณประตูทางเข้าของมัสยิดมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านคอยจัดระเบียบให้ประชาชนที่เข้าร่วมละหมาดในมัสยิด ทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย ใช้เจลล้างมือให้สะอาดก่อนเข้าไปลงชื่อนามสกุลพร้อมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
และประการสำคัญงดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอดและการแสดงออกที่สัมผัสที่แก้มต่อกัน โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวคำว่าสลามต่อกันเท่านั้น และยังไม่อนุญาตให้เด็กและสตรี เข้าร่วมการละหมาดที่มัสยิดโดยเด็ดขาดในระยะนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ยะลา - ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ดีใจ หลังจากจังหวัดผ่อนปรนมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อนุญาตให้มัสยิดกลางยะลา สามารถประกอบพิธีละหมาดวันศุกร์ได้ พร้อมกับอีกหลายพื้นที่ ตามคำประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์โควิต - 19 จังหวัดยะลาประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
โดยมีคณะกรรมการมัสยิด ผู้นำศาสนา ก็ได้ปฏิบัติตามกฏระเบียบมาตราการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา โดยให้มีการเว้นระยะห่างในการประกอบพิธีละหมาด ให้มีการใช้เจลล์แอลกอฮอลล้างมือ และผู้ที่มาละหมาด จะต้องอาบน้ำละหมาดมาจากที่บ้าน พร้อมกับสวมใส่หน้ากากอนามัย และทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนเข้าร่วมพิธีละหมาดในมัสยิด
+ อ่านเพิ่มเติม