เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ที่เมรุของวัดราษฏร์นิมิตศรัทธาธรรม หรือ วัดหนองปรือ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ นาง ธนู ช้างภู่พะงางาม อายุ 66 ปี ที่รับประทานขนมจีบและถ่ายท้องรุนแรงจนเสียชีวิต โดยญาติได้ประคองนาย ประเสริฐ อ้นเจริญ อายุ 73 ปี สามีของนางธนู ที่กินขนมจีนเข้าไปด้วยและมีอาการท้องเสียรุนแรงจนเข้ารับการรักษาตัวด้วยเช่นกัน ในวันนี้ได้ขออนุญาตทางโรงพยาบาลออกมาร่วมงานเผาศพภรรยาคู่ชีวิต โดยบุตรสาวและลูกเขยต้องช่วยกันประคองตัว นายประเสริฐ ขึ้นสู่เมรุ เพื่อทอดผ้าบังสุกุลและวางดอกไม้จัน
ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้ที่มาร่วมงาน โดยมีนาย พยนต์ เอี่ยมสะอาด นายก อบต.ศีรษะจระเข้น้อย ร่วมเป็นประธานในการประชุมเพลิงศพ และมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองปรือ และ อสม ได้มาตั้งโต๊ะคัดกรอง และจัดระเบียบผู้ที่มาร่วมงานและลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน ตามหลักการป้องกันการติดต่อและแพร่ระบาดโควิดที่ กำหนดไว้ อย่างเคร่งครัด
ตลอดระยะเวลาในการประกอบพิธีเผาศพนางธนู เหยื่อขนมจีบมรณะไม่พบครอบครัวหรือคนสนิทของแม่ค้าขนมจีบรถเร่ คนใดเดินทางมาร่วมไว้อาลัย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ที่มาร่วมงานต่างพากันถามหาความมีน้ำใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ขณะที่นางสุนีย์ พาสุนันท์ อายุ 62 ปี หนึ่งในผู้เสียหายพร้อมด้วยครอบครัว ได้หอบหลักฐานใบรับรองแพทย์เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ต. ธราวุธ ไชยสาร สารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย จากกรณีที่ นางสุนีย์ พร้อมกับบุตรหลานได้ซื้อและรับประทานขนมจีบเข้าไป เกิดอาการท้องร่วงรุนแรงเกือบทั้งบ้าน ขณะที่นางสุนีย์ เองยังมีอาการอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
โดยนางสุนีย์ ได้เล่าว่า ตนยืนยันว่าซื้อขนมจีบมาจากแม่ค้าที่ปรากฏเป็นข่าวจริงทั้งรูปร่าง ลักษณะและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับมาเร่ขายขนมจีบ โดยและซื้อมาทานในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่บ่อเก็บผักกะเฉด ในช่วงบ่ายโมง โดยซื้อไปจำนวน 3 กล่อง และนำมาแบ่งให้ลูกหลานในบ้านกินทั้งหมด 7 คน ซึ่งทุกคนก็เกิดอาการเดียวกันคือปวดท้องและถ่ายท้องอย่างรุนแรง ในส่วนตนนั้นได้ทานหลังจากซื้อมาได้ไม่นาน หลังเข้านอนได้ไม่นานก็เริ่มมีอาการแปลก หนาวมากผิดปกติ จนต้องให้ลูกสาวเอาผ้าห่มมาห่มเพิ่มให้ พอตกดึกก็เริ่มปวดท้องและถ่ายเหลวจนอาการแย่ลงจึงให้ลูกสาวพาไปที่โรงพยาบาล และกลับมาพักที่บ้านแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ลูกสาวจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 แพทย์ได้ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เป็นเวลา 5 วัน จนอาการเริ่มดีขึ้นแพทย์จึงให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน แต่ก็ยังมีถ่ายบ้างจางๆ เพราะเชื้อยังไม่หมด ส่วนขนมจีนที่ทานไปนั้นมองไม่ออกว่าเป็นหมูหรือไก่ แต่รับรู้ได้ว่าคล้ายกับมีส่วนผสมของผลไม้แห้วที่หั่นเป็นชิ้นเล็กทานกุบ ๆ ซึ่งตนได้กินเข้าไปหลายชิ้น เพราะไม่มีรสชาติผิดแปลกไปจากขนมจีบทั่วไปที่เคยทานรวมถึงน้ำจิ้มด้วย
ด้าน นางสาว นัฐกานต์ บุตรสาวของนางสุนีย์ ได้นำใบรับรองทางการแพทย์และเอกสารทางการแพทย์ออกมาให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมระบุว่าจากการสอบถามผลการตรวจรักษากับทางแพทย์ผู้รักษาคุณแม่ เบื้องต้นว่า พบว่าเชื้อไวรัสในลำไส้และอุจาระจำนวนมาก โดยผลของการตรวจเม็ดเลือดขาวในอุจาระของคุณแม่พบว่ามีเม็ดเลือดขาวในอุจาระสูงถึงหลักร้อย ซึ่งเกินค่าปกติทั่วไปซึ่งจะมีอยู่แค่ 1-2 เท่านั้น แต่แพทย์ไม่ได้แจ้งว่าไวรัสที่พบเป็นไวรัสชนิดใดต้องรถผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.วรวุฒิ ปานขาว ผกก.สภ.บางเสาธง ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้สืบหาข้อเท็จจริง ตนได้สั่งการให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนตั้งคณะทำงานเพื่อคลี่คลายในคดีนี้ โดยจะได้เชิญผู้ที่ซื้อขนมจีบไปรับประทานและเกิดล้มป่วยมาสอบปากคำทุกราย พร้อมทั้งเตรียมออกมาเรียกตัวแม่ค้าขายขนมจีบรถเร่ มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน แต่ในขณะนี้ทราบว่ายังไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใด ต้องรอผลการตรวจสอบชิ้นขนมจีบจากสาธารณะสุขกลับมายืนยันเสียก่อนว่าพบเชื้อชนิดใดหรือไม่
อย่างไรก็ตามนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตรวจขนมจีบมรณะว่า หลังจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ส่งตัวอย่างขนมจีบมาให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ชลบุรี ตรวจสอบ เบื้องต้นพบเชื้อแบคทีเรียแต่ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นสาเหตุที่แน่ชัดของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ เนื่องจากต้องนำอาการของผู้ป่วยและเสียชีวิตมาพิจารณาประกอบว่าเข้ากันได้หรือไม่
นพ.โอภาสกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบต้องดูว่ามีเชื้อโรคหรือสารพิษอะไรตกค้าง และขนมจีบที่นำมาตรวจต้องเป็นล็อตเดียวกับที่ผู้ป่วยและเสียชีวิตรับประทาน มิเช่นนั้นตรวจสอบไปก็ไม่ตรงกันแน่นอน เรื่องนี้ต้องสอบถาม เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคในพื้นที่ ถึงการเก็บตัวอย่างที่ชัดเจนว่าใช่ขนมจีบล็อตเดียวกันหรือไม่
+ อ่านเพิ่มเติม