คนทุกคนล้วนมีหัวใจ และเมื่อหัวใจถูกย่ำยีให้เจ็บซ้ำๆ ความอดทนอดกลั้นจึงหมดลง...เรื่องราวที่ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ จะไล่เรียงต่อจากนี้ เป็นเรื่องราวของความรัก ความหลงใหล ที่จบลงด้วยความสูญเสีย และคราบน้ำตา...
- นายพิส วัย 53 ปี และนางบุญเลิศ วัย 49 ปี สองผัวเมียชาวนครพนม เขาทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่กินกันมานานถึง 35 ปีตามประสาผัวเมียทั่วไป และมีลูกด้วยกัน 3 คน
- นายพิส ไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศสิงคโปร์ และส่งเงินมาให้นางบุญเลิศ ผู้เป็นเมียเอาไว้ใช้จ่ายเป็นประจำ ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
- วันหนึ่ง เมื่อนายพิสกลับมาที่บ้านนครพนม มีญาติสนิทมากระซิบบอกว่า ให้นายพิสทำใจ เพราะบุญเลิศคบชู้ นายพิสไม่เชื่อคำชาวบ้าน จึงไปถามความจริงจากเมียอันเป็นที่รัก และได้คำตอบอย่างตรงไปตรงมาจากปากเมียว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”
- นายพิส วอนขอให้เมียเลิกทำตัวแบบนี้ และตัวเองก็ออกเดินทางไปมาเลเซีย บรูไน เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว และส่งเงินกลับบ้านอย่างสม่ำเสมอ
- ในขณะที่นางบุญเลิศอยู่บ้าน เธอไม่ได้ทำตามที่คนเป็นผัวร้องขอ แต่เธอกลับนำเงินที่นายพิสส่งให้ ไปซื้อเหล้าเบียร์เลี้ยงผู้ชาย และจบด้วยการหลับนอนกับชายอื่น
- ต่อมา นายพิสกลับจากต่างประเทศ เพื่อมาอยู่บ้านถาวร และตระเวนรับจ้างก่อสร้างทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด โดยที่เขาไม่ยอมให้นางบุญเลิศต้องทำงานหนักแม้แต่น้อย
- กลางดึกของคืนหนึ่ง ขณะที่นายพิสกำลังนอน แต่ตัวเขายังไม่หลับ เขาได้ยินบทสนทนาอันบาดหัวใจระหว่างเมียเขากับชายอื่นว่า “พรุ่งนี้จะโกหกผัวว่าไปธุระในเมือง แล้วไปเจอกันที่รีสอร์ท” นายพิสได้ยินดังนั้น ก็ได้แต่นอนน้ำตาไหล และด้วยความรัก จึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
- แต่เรื่องราวไม่ได้จบแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว เพราะนางบุญเลิศ ออกไปหลับนอนกับชายอื่นอีกหลายต่อหลายครั้ง บางคนเธอหลงใหลมาก และได้พาไปเปิดตัวตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่สนใจคำครหาใดๆ
- ชายคนแล้วคนเล่าเข้ามาพัวพันกับเธอ บางครั้งเธอก็หาเรื่องทะเลาะกับนายพิส เพื่อไปนอนกับชายอื่น บางทีเธอหายหน้าไป 5-10 วัน ถึงจะกลับเข้าบ้าน ไม่เคยสะทกสะท้านต่อการกระทำใดๆ ส่วนนายพิสก็ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่า และเก็บงำความเจ็บช้ำมานานถึง 20 ปี
- 5พ.ค. ที่ผ่านมา นางบุญเลิศหาเรื่องทะเลาะกับนายพิส และออกจากบ้านไปเช่นเดิม และเธอกลับเข้าบ้านมาอีกทีในเวลา 04.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค. ซึ่ง ณ ขณะนั้น นายพิสกำลังก่อไฟนึ่งข้าวอยู่ที่บ้านหลังใหม่ที่กำลังสร้างใกล้เสร็จ
- นางบุญเลิศ เอ่ยปากว่า “ขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์หน่อย” ซึ่งเวลานั้น นายพิสรู้ดีว่า นางบุญเลิศจะขี่รถออกไปหาใคร จึงพูดตอบกลับไปว่า “ถ้าไปจะฆ่าให้ตาย”
- นางบุญเลิศ ไม่เกรงกลัวใดๆ พร้อมชี้หน้าท้าทายว่า “คนอย่างมึงจะกล้าฆ่ากูหรอ” พร้อมยิ้มเยาะเย้ย แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ
- เมื่อออกจากห้องน้ำนางบุญเลิศยังไม่หยุด ท้าทายว่า “มึงไม่กล้าฆ่ากูหรอก” นายพิสเหลียวไปเห็นอิฐบล็อกวางอยู่ใกล้ห้องน้ำ จึงหยิบมาแกล้งเคาะหัวเมีย
- นางบุญเลิศยิ่งได้ใจ พูดท้าทายและหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชายว่า “เดี๋ยวกูจะเอาชู้มานอนในบ้าน..ทำให้มึงเห็นจะๆ”
- ด้วยเหตุนี้ ทำให้นายพิสเกิดอาการหน้ามืดยกก้อนอิฐทุบที่ศีรษะเมียอย่างแรงถึง 3 ครั้ง นางบุญเลิศล้มลงเลือดนองพื้น นายพิสลองเอาหูแนบที่อกซ้ายพบว่าหัวใจหยุดเต้น จึงอุ้มศพเมียมาวางไว้ที่แคร่ ก่อนจะถอดผ้าถุงมาเช็ดเลือดแล้วโยนเผาไฟทิ้ง จากนั้น นำผ้าห่มคลุมร่างไว้เพื่อกันคนมาพบเห็น และทำความสะอาดล้างเลือดจนสะอาดเอี่ยม
- ด้วยความแค้นที่สุมอกกว่า 20 ปี นายพิสจิตใจสับสนอย่างหนัก เพราะกลายเป็นฆาตกร เขาจึงคิดต่อไปว่า จะไปฆ่าชายชู้คนล่าสุดคือ นายดำ มีบ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก จากนั้นก็จะไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อไปที่บ้านนายดำแล้วไม่พบจึงกลับมาบ้าน
- เขาตัดสินใจแบกศพเมียในสภาพเปลือยเปล่าโยนลงก้นบ่อเกรอะที่เป็นท่อปูน ลึกประมาณ 150 ซม. แต่ยังไม่ได้ติดตั้งโถส้วม แล้วผสมปูนมาโบกปิดอย่างสนิท
- 7 พ.ค. ลูกสาวที่แยกครอบครัวไปอยู่กับสามี ได้แวะมาหา และถามว่าแม่ไปไหน นายพิสตอบว่า พ่อไล่หนีไปอยู่กับชู้แล้ว แต่ลูกสาวเหลือบไปเห็นพ่อโบกปูนปิดบ่อเกรอะจนไม่มีที่ระบาย จึงถามว่า หากส้วมเต็มจะทำอย่างไร นายพิสตอบว่า ก็เจาะรูสูบทีหลังก็ได้ จากนั้นก็มีรถยนต์ผู้รับเหมามารับนายพิสไปทำงานก่อสร้าง
- ด้วยความสงสัย ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน จึงลองนำค้อนมาทุบเป็นรูพอกำปั้นลอดได้ แล้วนำไฟส่องกบมาส่องดูข้างใน พบร่างของแม่นอนเสียชีวิตอยู่ก้นบ่อ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
- ตำรวจติดตามไปจับตัวนายพิสถึงที่ทำงาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังอำพรางศพ ส่วนนายพิส ก็ยอมรับสารภาพ และเล่าด้วยความคับแค้นใจว่า บางครั้งหายไปอยู่กับชู้เป็นเดือนๆ สักพักก็มีชายคนใหม่แล้วก็หายไปอีก นับได้มีชายชู้ถึง 7 คน เขาขอร้องให้เห็นแก่ลูกๆ กลับเนื้อกลับตัว แต่เมียก็ไม่สำนึก
- ส่วนลูกสาวให้การกับตำรวจว่า รู้มาตลอดว่าแม่สวมเขาให้พ่อ เคยขอร้องให้แม่เลิกทำแบบนี้ และเป็นเมียที่ดีของพ่อ แต่แม่กลับตอบว่า ไม่เลิก จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ
- ลูกสาว กล่าวด้วยน้ำตาว่า ครอบครัวต้องสูญเสียทั้งแม่ผู้ให้กำเนิด ส่วนพ่อก็ต้องติดคุก และเมื่อลูกสาวเห็นพ่อสวมกุญแจมือ เธอก็ร้องไห้และโผเข้ากอด พร้อมบอกให้พ่อเข้มแข็ง และจะไปเยี่ยมในเรือนจำจนกว่าพ่อจะได้อิสรภาพ.