ตร.ปรับแนวทางบังคับใช้ กม. เพิ่มชุดสายตรวจร่วม-คุมเข้มชายแดน หลังขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ
logo TERO HOT SCOOP

ตร.ปรับแนวทางบังคับใช้ กม. เพิ่มชุดสายตรวจร่วม-คุมเข้มชายแดน หลังขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ

TERO HOT SCOOP : ตร.ปรับแนวทางบังคับใช้ กม. หลังขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับแนวทางหลังขยายเวลาบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน สายตราจ,ตำรวจ,เคอร์ฟิว,พรกฉุกเฉิน,โควิด19

2,472 ครั้ง
|
30 เม.ย. 2563
ตร.ปรับแนวทางบังคับใช้ กม. หลังขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับแนวทางหลังขยายเวลาบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน โดยเพิ่มชุดสายตรวจร่วม คุมเข้มชายแดนป้องกันเข้าเมืองผิดกฎหมาย และป้องกันเหตุประทษร้ายทรัพย์ซ้ำเติมประชาชน
 
วันที่ 30 เม.ย. พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ (30 เม.ย. 63) ฝ่ายความมั่นคง จะปรับแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย หลังมีการขยายเวลาการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยตำรวจจะปรับยุทธวิธีเป็นเชิงรุกมากขึ้น จากการตั้งด่าน เป็นกำลังสายตรวจร่วม เพื่อเข้าไปดำเนินการ 4 แนวทางหลัก คือ การสุ่มตรวจผู้ที่กักตัวอยู่บ้าน การตรวจสอบกลุ่มสถานประกอบการและกิจกรรมที่มีการผ่อนปรน ว่ามีการปฏิบัติตามเงื่อนไขและแนวทางที่กำหนดไว้หรือไม่
 
โดยช่วงแรก จะใช้การแนะนำตักเตือนก่อน และกำชับตำรวจทุกนาย ไม่ให้ใช้ช่วงโอกาสนี้ เรียกรับผลประโยชน์ซ้ำเติมประชาชนเด็ดขาด ตลอดจนการเข้าตรวจสอบจับกุมการรวมตัวมั่วสุม อาทิ โรงแรม หอพัก และยังคงจุดตรวจเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. แม้จะพบแนวโน้มผู้กระทำผิดลดลงอย่างต่อเนื่อง 
 
โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พบเพียงกว่า 500 ราย แต่ผู้กระทำผิดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวกว่าร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ เป็นการมั่วสุม ขับขี่รถเล่น หรือเมาสุรา ซึ่งยังคงต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มความเข้ม ตรวจตราการลักลอบเข้าเมืองผ่านชายแดนธรรมชาติ หลังพบว่า ระหว่างที่มีคำสั่งห้ามการเดินทาง ยังคงมีผู้ลักลอบเข้าไทยอย่างผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด และการป้องกันปราบปรามปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะ คดีที่เกี่ยวกับทรัพย์ เนื่องจาก พบมีการประทุษร้ายต่อทรัพย์มากขึ้น รวมถึงการลักลอบเล่นการพนัน