จากกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแถลงผลการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ ขอโทษประชาชนบางกลุ่มที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา (เราไม่ทิ้งกัน)อย่างทั่วถึง พร้อมชี้แจงว่า การจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท มาจากฐานข้อมูลแรงงาน 37 ล้านคน โดยเงินเยียวยาทุกกลุ่มจะจ่ายได้เพียง 1 เดือนแรกจากงบกลาง ส่วนเงินเยียวยา เดือนที่ 2 - 3 ต้องรอเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2563 จำนวน 1 แสนล้านบาท จึงจะเยียวยาได้ทั้งหมด
กระทั่ง เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลต่อมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงตั้งข้อกังขาว่า สถานการณ์ของรัฐบาล ณ ขณะนี้ "รัฐบาลถังแตก" หรือไม่
ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งเธอให้ความเห็นกับเราว่า
- ได้เงิน 5,000 ครบ 3 เดือนจริงหรือไม่?
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า “ขอยืนยันว่าได้รับเงิน 5,000 บาท ครบ 3 เดือนแน่นอน ร้อยเปอร์เซ็นค่ะ วันที่ท่านนายกฯ พูดเรื่องเอาเงินงบประมาณมาจ่ายให้ประชาชน 1 เดือนก่อน จึงจะเอาเงินกู้มาจ่ายต่อก็มีคนตีความว่าจะได้รับเงิน 5,000 แค่ 1 เดือน คือจริงๆ ท่านนายกฯ ไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายขั้นตอน การกู้เงินก็ได้ เพราะเป็นเรื่องปกติซึ่งมีความจำเป็น และเกิดขึ้นในทุกรัฐบาล ฉะนั้น ประชาชนได้เงินแน่นอนอยู่แล้ว แต่บางครั้งไม่จำเป็นจะต้องไปบอกขั้นตอน”
- รัฐบาลถังแตก?
น.ส.ปารีณา ชี้แจงว่า “ไม่จริงค่ะ รัฐบาลถังไม่แตก ทุกงบประมาณยังดำเนินการตามปกติ ท่านนายกรัฐมนตรีเคยขอให้ทุกหน่วยงานคืนงบประมาณ 10 เปอร์เซ็น เนื่องจากเกิดวิกฤตโควิด-19 แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าไหร่ ซึ่งเงินฉุกเฉินมีอยู่ 2,000 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในส่วนของตรงนี้ ซึ่งจะมีการหารงบประมาณ ตอนนี้เรายังทรงตัวได้ปกติอยู่"
"ส่วนการกู้เงินเป็นเรื่องปกติ ทุกรัฐบาลกู้หมดแต่รัฐบาลที่ถังแตกก็คือ รัฐบาลของท่านทักษิณเนื่องจากมีการผลาญงบประมาณอย่างไม่บันยะบันยัง และมีการเก็บรายได้(เงินภาษี) เข้ารัฐบาลไม่ได้ตามเป้า ทำให้ขาดสมดุลในการบริหารประเทศ"
"แต่วันนี้รัฐบาลของเรายังคงเก็บเงินภาษีได้เกินเป้าของที่ตั้งไว้ ซึ่งตรงนี้เราเคยถูกอภิปรายในสภา ซึ่งดิฉันก็นั่งฟังอยู่ สมมติว่าเราตั้งเป้าเก็บเงิน 100 บาท และตอนที่เราขาดสมดุลงบประมาณในช่วงของรัฐบาลทักษิณ ซึ่งไม่เคยเก็บภาษีได้ตามเป้าเลย เรียกได้ว่าเป็นการบริหารงบไม่สมดุล และมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 แต่ในส่วนของรัฐบาลของท่านพลเอกประยุทธ์ เก็บภาษีได้เกินเป้า หากย้อนไปดูเมื่อสมัยที่ยังเป็นคสช. เราก็ยังเก็บภาษีได้เกินเป้าตามที่เราตั้งไว้ ดังนั้น รัฐบาลยังทรงตัวได้อยู่ แต่ว่าเป็นเพราะกระแสโซเชียลที่มีผลกระทบ ซึ่งในความป็นจริงรัฐบาลยังถือว่าโอเคอยู่”
ขณะเดียวกัน เจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึง อดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ว่า “เห็นหลายท่านเรียกร้องในโซเชียลให้พลเอกประยุทธร่อนหนังสือถึงเศรษฐีที่รวยที่สุด 20 อันดับแรกของไทย เพราะถ้าร่อนหนังสือถึงเศรษฐีรวยที่สุด 10 อันดับแรก หนังสือจะไม่ถึงทักษิณแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้แก้ไขไม่ยาก ดิฉันขอเสนอให้พลเอกประยุทธร่อนหนังสือถึง 10 อันดับคนเลวที่สุดในประเทศ รับรองถึงทักษิณแน่นอน”
ส.ส.จังหวัดราชบุรี ยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อน้อยลง และเชื่อว่าเราจะผ่านกันไปได้ด้วยดี และอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลในเรื่องของมาตรการเยียวยาต่างๆ เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็จะถูกโจมตี จึงอยากขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลพยายามช่วยเหลือประชาชนในทุกชั้นทุกระดับ อย่าไปบอกว่าคนรวยไม่เดือดร้อน ใครๆ ก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้น จะมีมาตรการเยียวยาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดดอกเบี้ยเป็น 0 เปอร์เซ็น ในวงเงินที่แต่ละธนาคารจะมอบให้ และในส่วนของการลดค่าน้ำค่าไฟ การคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า และมิเตอร์น้ำประปา"
"ในส่วนของการเยียวยาด้วยเงิน เกษตรกร พี่น้องประชาชน กรมแรงงาน รัฐบาลมีหลายมาตรการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเงิน 5,000 บาทที่มีการแชร์เฟกนิวส์กันมาก เราก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาล และรัฐบาลมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชน แต่ขั้นตอนและวิธีการนั้นบางทีท่านนายกฯ อาจจะไม่จำเป็นต้องพูดเพราะพูดไปก็เป็นประเด็นขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ท่านนายกฯ ก็ขอโทษแล้วถึงเรื่องขั้นตอนและก็ทำให้คนไม่สบายใจเยอะ"
"อยากขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลด้วย และอยากให้ทุกคนสามัคคีกันโดยเฉพาะช่วงนี้ หรือจะตลอดไปได้ก็จะดี อยากให้ก้าวข้ามวิกฤตไปก่อน เพราะทั่วโลกมีคนตายเยอะ ตอนนี้เมืองไทยก็ทรงตัวได้ดี อยากเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ รัฐบาล และประชาชน ขอให้อดทน และเราจะผ่านไปด้วยกัน” น.ส.ปารีณา ทิ้งท้าย.