ชาวกรุงเก่าโกลาหล วุ่นช่วยตัวเงินตัวทองข้ามถนนถูกรถชนเจ็บปางตาย

ชาวอยุธยาพบตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่เดินข้ามถนนถูกรถทับเจ็บสาหัส ทั้งพระ ทั้งคน ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ให้รักษา แต่จนท.กลัวไม่กล้าทำแผล ร้อนถึง ผอ.รพ.ต้องลงมือทำเอง

28 พฤษภาคม 2557- พระอธิการประสาทเขมะปุญโญ เจ้าอาวาสวัดธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งให้ทีมงานกู้ภัยอยุธยา จุดถนนสายเอเชีย ให้เข้าทำการช่วยเหลือ ตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่ไม่ทราบเพศ ที่ถูกรถยนต์ทับจนบาดเจ็บ นอนอยู่ริมถนนอู่ทอง ฝั่งเกาะเมืองอยุธยา ตรงข้ามวัดธรรมาราม เขตตำบลประตูชัน อำเภอพระนครศรีอยุธยา

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบสภาพตัวเงินตัวทองนอนแน่นิ่ง ลำตัวเยียดยาวขาทั้งสี่ข้างไม่มีแรง มีเลือดไหลออกทางปากและรูจมูกมองแล้วเป็นที่น่าเวทนาสงสาร ตรวจสอบบริเวณ ที่ปากพบมีเนื้อไหลทะลักเป็นบาดแผลข้างปากซ้าย อาการสาหัส แต่ยังหายใจรวยระริน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดสายเอเชีย ต้องใช้เปลกู้ชีพคนไข้ใช้หามตัวเงินตัวทองส่ง รพ.สัตว์กรุงศรี

ระหว่างนั้น นางดวงกมล นัยชิด อายุ 58 ปี ขับขี่รถจักรยายนต์ผ่านมาและให้ข้อมูลว่าตัวตะกวดถูกรถยนต์ทับและมานอนรอความตายริมถนน ติดว่าจะตายเสียแล้วเพราะสัตว์แบบนี้ใครๆก็รังเกียจ โดยครั้งแรกที่พบตนเองรถยางแตกตรงนี้พอดีและเห็นเข้าจึงสวดแพร่เมตตาขอให้รอด โชคดีที่พระท่านทราบแจ้งให้คนมาช่วย

ทันที่ที่ถึงโรงพยาบาลความโกลาหลก็เกิดขึ้นอีกเนื่องจากตั้งแต่สร้างโรงพยาบาลรักษาสัตว์มายังไม่เคยมีใครนำต้วเงินตัวทองมารักษาเลยสักรายเดียว รายนี้เป็นรายแรกและที่สำคัญทั้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ยังตกใจที่นำเจ้าตัวเงินตัวทองมารักษา และยังไม่รู้จะจัดการเริ่มต้นรักษากันอย่างไร ก่อนที่จะตั้งสติทำประวัติตัวเงินตัวทองตัวดังกล่าวในเบื้องต้น พบว่ามีน้ำหนัก 22 กิโลกรัม ความยาวหัวจรดหาง 2 เมตร ไม่ทราบเพศ

ทั้งนี้ระหว่างรอการทำประวัติ ทางเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายสัตวแพทย์ไพรัช รุ่งอุทัย ผอ.โรงพยาบาลสัตว์กรุงศรีและเป็นเจ้าของโรงพยาบาล มาทำการรักษา เปิดปากแผลทำความสะอาดทายาฆ่าเชื้อและเปิดเผยว่า อาการถือว่าต้องรีบช่วยเหลือและตรวจสอบดูว่าภายในบอกซ้ำมากหรือไม่ ซึ่งต้องเร่งทำแผลฉีกขาดและตรวจสอบว่ากระดูกส่วนต่างๆหักมากน้อยเพียงใด โดยรวมถือว่าไม่น่าจะถึงแก่ชีวิต และเมื่อรักษาหายคงต้องนำกลับไปปล่อยตามถิ่นที่อยู่เดิม แต่คาดว่ายังต้องนอนพักรักษาที่ รพ. อีกนอนกว่าจะนำไปปล่อยได้