นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการกล่าวหาสมาชิกพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย
โดยแถลงผลการตรวจสอบว่า คณะกรรมการดำเนินกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความละเอียด รอบคอบ เป็นธรรม โดยรวบรวมเอกสาร ข้อมูล หลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ปรากฏในสื่อสาธารณะและที่อื่นๆ อีกทั้งได้ติดต่อประสานงานขอทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการ
ซึ่งได้ขอข้อมูลจากผู้กล่าวหา คือ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แต่กลับไม่ได้รับข้อมูล และพบว่ามีการนำข้อมูลมาปะติดปะต่อ เพื่อโน้มน้าวให้สังคมเข้าใจว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีตำแหน่งทางการเมืองเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ ใช้อำนาจหน้าที่ร่วมกับบริษัทเอกชนและข้าราชการ แสวงหาประโยชน์จากการได้รับโควตาหน้ากากอนามัย นำมากักตุนส่งออกและจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ โดยมิชอบ
และเมื่อคณะกรรมการเชิญนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาให้ข้อมูล ก็ชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เคยรู้จักกับบริษัทเอกชน 3 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับขบวนการหลอกลวงขายหน้ากากอนามัยผ่านออนไลน์ของผู้เกี่ยวข้องนักการเมือง รวมทั้งเมื่อตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่พบว่ามีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตกเป็นผู้ต้องหาหรือมีคดีที่เกี่ยวข้องตามที่ถูกกล่าวหา
คณะกรรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า ผู้กล่าวหาตั้งประเด็นกล่าวหาคลุมเครือไม่ชัดเจน ไม่มีข้อมูลหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใด ที่ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการกักตุน และส่งออกหน้ากากอนามัย
ไม่มีข้อมูลหลักฐานใดบ่งชี้ว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ผู้ถูกกล่าวหา กระทำการอันขัดต่อข้อบังคับมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค พร้อมยืนยันว่า ผลสอบที่ออกมา ไม่ได้เป็นการฟอกตัวให้กับผู้ถูกกล่าวหา หากพบว่ามีสมาชิกพรรค หรือข้าราชการการเมืองคนใดเกี่ยวข้องกับการกักตุน และการส่งออกหน้ากากอนามัยที่ผิดกฎหมาย พรรค ก็พร้อมจะดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง และพร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด
+ อ่านเพิ่มเติม