ไฟป่าเสียงกรีดร้องจากพงไพรที่ปลิวเงียบไปกับเถ้าธุลี
logo TERO HOT SCOOP

ไฟป่าเสียงกรีดร้องจากพงไพรที่ปลิวเงียบไปกับเถ้าธุลี

TERO HOT SCOOP : กลุ่มควันทมิฬที่พวยพุ่งฟุ้งกระจายทั่วผืนป่า สัตว์น้อยใหญ่กระเสือกกระสนดิ้นรนหนีตาย หยาดเหงื่อแรงกาย แผลพุพองของเหล่านักรบที่เสี่ ไฟป่า,ไฟป่าเชียงใหม่,เชียงใหม่,#SAVEเชียงใหม่,#ไฟป่าเชียงใหม่,รองผู้ว่าเชียงใหม่,อาสาดับไฟป่า,อีเห็น,ลูกเสือดาว,ไฟไหม้,ดอยสุเทพ,ดอยปุย,สัตว์ป่า

2,201 ครั้ง
|
07 เม.ย. 2563

กลุ่มควันทมิฬที่พวยพุ่งฟุ้งกระจายทั่วผืนป่า สัตว์น้อยใหญ่กระเสือกกระสนดิ้นรนหนีตาย หยาดเหงื่อแรงกาย แผลพุพองของเหล่านักรบที่เสี่ยงตายดับไฟป่า กี่ชีวิตที่ต้องสังเวย เสียงกรีดร้องจากพงไพรที่อาจจะดังไม่พอให้ก้องกังวาลในโสตประสาทสังคมไทย ‘ไฟป่าเชียงใหม่’

 

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้ แต่อีกฟากของประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตไฟป่าอย่างพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่

 

ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชกาลจังหวัดเชียงใหม่ถึงกรณีดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญดังนี้

 

นายคมสันกล่าวว่า “สาเหตุการเกิดไฟป่าหลักๆ คือ พื้นที่ป่าในจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นผืนป่าเบญจพรรณ ซึ่งจะมีการผลัดใบของต้นไม้ซึ่งใบไม้เหล่านั้นจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ซึ่งหากเกิดไฟป่าจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ”

 

“มีการประกาศห้ามเผาในพื้นที่โล่งแจ้งตั้งแต่วันที่ 10-30 เมษายน เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ จึงเกิดการอัดอั้นของประชาชนที่ไม่สามารถเผาได้ ประกอบกับมีการประกาศห้ามเผาในพื้นที่โล่งแจ้งตั้งแต่วันที่ 10-30 เมษายน เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ จึงเกิดการอัดอั้นของประชาชนที่ไม่สามารถเผาได้ รวมถึงการล่าสัตว์หาของป่า ซึ่งชาวบ้านทำการเผาเพื่อง่ายต่อการกระทำ”

 

รองผู้ว่าฯจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า สาเหตุวิกฤติไฟป่าครั้งนี้มาจากฝีมือของคนที่ลักลอบเผาป่าร้อยเปอร์เซ็น โดยล่าสุด สามารถจับได้แล้วกว่า 700 คดี เนื่องจากวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ทำการเกษตร และพื้นที่เป็นภูเขาซึ่งไม่สามารถใช้รถไถเพื่อกำจัดวัชพืชได้ ชาวบ้านจึงเลือกใช้วิธีเผา รวมถึงการเผาหาของป่าหรือการล่าสัตว์ โดยจุดที่เกิดไฟไหม้ทั้งหมดเป็นพื้นที่ป่าสงวน และเขตป่าอนุรักษ์ มีพื้นที่กว้างใหญ่ จึงทำให้ตรวจสอบการลักลอบเผาป่าได้ยาก

 

นายคมสันยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ทางการได้ตั้งชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้าน ชุดดับไฟประจำหมู่บ้าน และในส่วนพื้นที่เขาสูงชันซึ่งยากต่อการเข้าถึง จะมีกรรมวิธีเผาชนเพื่อให้เชื้อเพลิงหมดไป และมีการใช้เฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานสนธิกำลังทิ้งน้ำดับเพลิงทางอากาศ

 

ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายจากการพบจุด Hotspot(จุดความร้อน) กว่า 500 จุด เหลือ 107 จุด โดยดอยสุเทพ-ปุย ไฟได้ดับทั้งหมดแล้ว

 

เมื่อถามถึงความเสียหาย  รองผู้ว่าฯจังหวัดเชียงใหม่ ระบุกับทีมข่าวว่า

“ความเสียหายเกือบ 2 หมื่นไร่ ยังไม่ได้ยอดสรุปที่ชัดเจน เรื่องสัตว์ป่าตอนนี้ข้อมูลที่มีหรือภาพที่ปรากฎยังมีเยอะไม่เท่าไหร่ ส่วนที่ไม่เห็นผมตอบไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีรายงานที่แน่ชัด”

 

เพื่อแก้วิกฤตครั้งนี้จึงมีการระดมสรรพกำลังเพื่อดับไฟป่าจนเกิดเรื่องสลด เมื่อเราต้องสูญเสียเหล่าฮีโร่ผู้กล้าถึง 4 รายซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายนิพนธ์ จาระธรรม หรือพ่อหลวงแดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ขณะเข้าดับไฟป่าในพื้นที่อ.สันทราย

 

รวมทั้ง นางต๊ะนี กิจเจริญพัฒน์, นายเงิน นาหยิ, สิบตรี ปิยะพันธ์ แสนสุข ซึ่งทั้งหมดได้อาสาเข้าดับไฟป่าอย่างแข็งขันก่อนจะถูกไฟคลอกเสียชีวิต เหลือเพียงชื่อที่จะถูกสดุดีบอกเล่าวีรกรรมความกล้าสู่คนรุ่นหลัง

 

ซ้ำร้ายเกิดเหตุสลดเมื่อเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภูพิง ผูกคอเสียชีวิต ทิ้งจดหมายลาตายตัดพ้อระบบราชการ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “หน่วยงานราชการเป็นแบบนี้เสมอ แก้อะไรไม่ได้ มีทั้งเด็กนาย เด็กกูเสมอ”

 

นอกจากนี้ยังมีสัตว์น้อยใหญ่กระเสือกกระสนดิ้นรนหนีตายมากมายอย่าง อีเห็นข้างลาย ซึ่งตะเกียกตะกายหนีตายจากไฟป่าก่อนจะมีผู้พบเห็นแล้วนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ป่า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ยังมีกระต่ายป่า และลูกแมวดาวอีก 5 ตัวที่ต้องพลัดหลงกับพ่อแม่

 

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สังคมตระหนักถึงปัญหา มีการร่วมมือกันท้้งหน่วยงานรัฐ เอกชน ร่วมถึงภาคประชาชน ร่วมเปิดข้อเท็จจริงเพื่อถอนรากถอนโคนแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง และช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาสวยงามดังเดิม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง