นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 2 เมษายน 2563
วันที่ 2 เม.ย. ไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 104 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 60 คน ทั้งกรณี สนามมวย สถานบันเทิง กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 36 คน เป็นผู้ที่กลับจากต่างประเทศ ไปสถานที่แออัด มีอาชีพเสี่ยง และเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 2 คน และรอสอบสวนโรคอีก 8 ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,875 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ทำให้ตัวเลขเสียชีวิตสะสม 15 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 505 คน
โดยผู้เสียชีวิต 3 ราย มีชายอายุ 57 ปี ที่เสียชีวิตบนขบวนรถไฟทับสะแกเมื่อ 30 มี.ค. หลังกลับจากปากีสถาน และมีโรคเบาหวานร่วมด้วย คนต่อมาเป็นชายวัย 77 ปี มีประวัติเป็นโรคถุงลมโป่งพองและมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ส่วนคนที่ 3 เป็๋นชายวัย 55 ปี ขับรถสาธารณะอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นคือกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมถึงชาวไทยที่กลับจากต่างประเทศ กลับมาจากมาเลเซีย 132 คน ติดเชื้อ 47 คน ต้องมีการกักตัวผู้ใกล้ชิดอีกกว่า 1,000 คน กลับจากการประกอบศาสนกิจที่อินโดนีเซีย 56 คน มีผู้ติดเชื้อ 32 คน ต้องกักตัวอีกกว่า 500 คน ทำให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ชะลอการเดินทางของชาวต่างชาติและคนไทยในช่วงนี้เพื่อให้ตัวเลขการแพร่กระจายลดลง ยกเว้นคนที่มีความจำเป็นซึ่งได้ขออนุญาตไว้แล้ว
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมคนไทยช่วงนี้ พบว่าจากผลสำรวจประชาชน 77 จังหวัด มีการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า สูงถึง 94.03% ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ ถึง 90.47% ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 85.33% ซึ่งถือว่าประชาชนให้ความร่วมมือสูงมาก แต่ที่น่ากังวล คือ ประชาชนเพียง 64.81% เท่านั้น ที่รักษา ระยะห่างจากคนอื่นๆ ซึ่งถือว่ายังให้ความร่วมมือน้อย
ขณะเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโควิด-19 ที่ จ.ปทุมธานี ในพื้นที่ตำบลคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยของ อบต.คลองสาม ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยขอความช่วยเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พอไปตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ชาย มีไข้สูง จึงรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 1 เมษายน เวลา 11.00.น. ที่ผ่าน ต่อมาแพทย์ได้แจ้งว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลงด้วยการติดเชื้อโควิด-19
นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยรายนี้มาเข้าห้องรักษาที่ห้องไอซียู ทำการรักษาตามอาการ แต่ก็ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ ก่อนจะเสียชีวิตลง ตอนนี้ได้รายงานเรื่องไปยังส่วนกลางแล้ว
ด้าน ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม กล่าวว่าได้รับรายงานจากทางกู้ภัย อบต.คลองสามว่าได้นำผู้ป่วยรายหนึ่งใน ต.คลองสาม นำส่ง รพ.และทราบในเวลาต่อมาว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยขณะนี้ทางตนเองได้จัดสถานที่ในการกักตัวกู้ภัยที่นำตัวผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เอาไว้ที่อาคารนวัตกรรมด้านหลัง อบต.คลองสาม พร้อมกับนำตัวกู้ภัยดังกล่าวนำส่ง รพ.เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งผลจะทราบว่ากู้ภัยของ อบต.ที่ไปนำส่งผู้เสียชีวิตนั้นมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ในวันอังคารที่ 7 เมษายน ที่จะถึงนี้
ทางนิติบุคคลหมู่บ้านที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ ได้ออกหนังสือกระจายถึงลูกบ้านทุกบ้าน เพื่อแจ้งว่ามีสมาชอกในหมู่บ้านเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยในวันนี้ (3 เม.ย.) ทาง อบต.คลองสามจะดำเนินการออก ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในหมู่บ้าน โดยเฉพาะบ้านของผู้เสียชีวิตดังกล่าว พร้อมออกมาตรการป้องกันต่างๆ
สำหรับญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่รวมกันกับผู้เสียชีวิตนั้น ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ได้มีการรับตัวสมาชิกในครอบครัวไปดำเนินการกักตัวเอาไว้แล้ว สำหรับเรื่องของทางญาติของผู้เสียชีวิตที่ได้ออกไปพบปะกับผู้คนในช่วงก่อนหน้านี้นั้น ทาง อบต.เองจะเร่งได้ออกประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบถึงวิธีป้องกันตัวเองในเบื้องต้น หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการพบปะชุมนุม
+ อ่านเพิ่มเติม