กักตัวนศ. 111 ชีวิต กลับจากปากีสถาน หวั่นนำโควิด-19 ระบาดชายแดนใต้

วันที่ 30 มี.ค. 63 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสพร้อมด้วยนายบุญช่วย หอมยามเย็น ปลัดจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางไปยังอาคารศูนย์บำบัดยาเสพติด ซึ่งตั้งอยู่ภายในที่ทำการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนราธิวาส 1 อ.เมืองนราธิวาส 

ซึ่งเป็นสถานที่ใช้กักตัวเพื่อสอบสวนโรคนักศึกษาชาย จำนวน 77 คน ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จ.นราธิวาส ที่ได้เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศปากีสถาน และได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อสังเกตดูอาการว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 จำนวน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. ถึง 12 เม.ย. 63

พร้อมกันนี้ทางคณะยังได้เดินทางไปยัง ศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 อ.ระแงะ ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวนักศึกษาหญิง จำนวน 34 คนในกรณีเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 เป็นวงกว้าง จนเจ้าหน้าที่ยากต่อการควบคุมการแพร่ระบาดในอนาคต ที่เดินทางมาด้วยรถบัสจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีรถของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้อำนวยความสะดวกด้วยการนำหน้าและปิดท้ายขบวนเดินทางมายังสถานที่กักตัวทั้ง 2 แห่ง

โดยมีเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุข จ.นราธิวาส และอ.ระแงะ ซึ่งมีการแต่งกายด้วยชุดป้องกันโรคในการตรวจคัดกรอง ซักประวัติเป็นรายบุคคลอย่างละเอียด และจะมีการตรวจวัดไข้อุณหภูมิของทุกคนเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ในรัศมีเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยสุขภาพจิต มาพบปะพูดคุยทำความเข้าใจในการลดความตึงเครียดแก่นักศึกษากลุ่มนี้ด้วย และหากพบว่าคนใดไม่มีอาการเมื่อครบกำหนดก็จะส่งกลับบ้านพักต่อไป