ไฟป่าดอยสุเทพโหมแดงเต็มท้องฟ้า ระทึก! ไฟลามประชิดบ้านป่าแหว่ง จนท.เข้าสกัดเพลิงต่อเนื่อง
logo ข่าววันใหม่

ไฟป่าดอยสุเทพโหมแดงเต็มท้องฟ้า ระทึก! ไฟลามประชิดบ้านป่าแหว่ง จนท.เข้าสกัดเพลิงต่อเนื่อง

ข่าววันใหม่ : ไฟไหม้ป่าตีนดอยสุเทพเจอลมแรงไฟโหมแดงเต็มท้องฟ้าจนน่ากลัว เผาพื้นที่ราชพัสดุที่ทหารขอใช้ประโยชน์เหนือห้วยตึงเฒ่า ไม่ห่างบ้านป่าแหว่ง ไฟไหม้,ไฟป่า,ดอยสุเทพ,บ้านป่าแหว่ง

1,825 ครั้ง
|
19 มี.ค. 2563
ไฟไหม้ป่าตีนดอยสุเทพเจอลมแรงไฟโหมแดงเต็มท้องฟ้าจนน่ากลัว เผาพื้นที่ราชพัสดุที่ทหารขอใช้ประโยชน์เหนือห้วยตึงเฒ่า ไม่ห่างบ้านป่าแหว่งแล้วกว่า150ไร่ จนท. ระดมกำลังกว่า 200 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ เร่งระงับเหตุ แต่ยังเอาไม่อยู่
 
 
รายงานจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 18 มี.ค. 63 เกิดเหตุไฟไหม้ป่า บริเวณพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ของทหารเหนือบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุด ที่เกิดไฟไหม้ป่า พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ด้านหลังบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 
 
 
โดยเจ้าหน้าที่ดับไฟจากสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์, ชุดเสือไฟ กรมอุทยานฯ , กำลังทหารจาก มทบ.33 , เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย , สนง.ปภ.จ.เชียงใหม่ , อบจ.เชียงใหม่ , ฝ่ายปกครอง และเครือข่ายชาวบ้านจิตอาสาบริเวณห้วยตึงเฒ่า รวมกว่า 200 นาย โดยมีเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพฯ สนับสนุนบินทิ้งน้ำช่วยดับไฟต่อเนื่องหลายสิบเที่ยวแล้ว แต่ยังไม่สามารถดับไฟได้
 
 
เบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายแล้วกว่า 150 ไร่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าควบคุมไฟอย่างเร่งด่วน แต่เป็นไปด้วยความยากลำยาก เนื่องจากเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เข้าถึงพื้นที่ยาก รวมทั้งมีใบไม้แห้งเป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟลุกลามเป็นแนวยาว ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชา ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
 
 
จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.เกิดกระแสลมแรงพัดเสริมเข้ามายังจุดที่เกิดไฟป่า ทำให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว จนทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงจากแสดงของเปลงไฟกระทบหมอกควันตัดกับท้องฟ้าสีดำยามค่ำคืนทำให้เกิดภาพที่น่าตกใจยิ่งหากมองจากไกลๆ แล้วยิ่งชัดเจน
 
 
ไฟป่าลุกลามจนมาประชิดกับรั้วของหมู่บ้านป่าแหว่ง และหมู่บ้านสวัสสดิการทหาร และยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องเจ้าหน้าที่ทำให้เพียงเข้าทำแนวกันไฟในจุดที่เพลิงยังลุกลามมาไม่ถึง และเข้าใช้รถน้ำสกัด แต่ด้วยลมแรงทำให้เปลวไฟโหมรุนแรงเป็นระยะทำให้เสี่ยงอันตรายมากหากใช้เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟ จึงต้องตีวงรอบทำแนวกันไฟ
 
 
 
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. กระแสลมเริ่มเบาลง ทำให้เปลวไฟที่ลุกลามเริ่มลดน้อยลง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงระดมรถน้ำเข้าไปควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวเชื้อไฟที่ยังไม่ดับสนิทครุกรุ่น และประทุขึ้นมาได้อีก
 
 
 
 
 
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MTZnLnAcQ8Q

ข่าวที่เกี่ยวข้อง