ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุระเบิดคาร์บอม หน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะกำลังประชุมอยู่ภายในห้องประชุมนั้น ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นครั้งแรก สร้างความตื่นตระหนกในที่ประชุม
ซึ่งผู้บาดเจ็บ มีทั้ง ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่อีกบางส่วน โดยทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลยะลาแล้ว
โดยภายหลังเกิดเหตุ ได้มีการตรวจสอบภาพวงจรปิดในช่วงเวลาดังกล่าว ก็พบว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นมีคนร้าย เป็นชาย 1 คน ขับรถยนต์กระบะที่คาดว่าประกอบระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ไว้ในรถยนต์ กระบะโตโยต้า ลักษณะ เหมือนรถยนต์จ้างรับเหมาก่อสร้าง มาจอดไว้ที่หน้าป้าย ศอ.บต.ซึ่งใกล้กับประตูทางเข้า โดยเวลาที่คนร้ายนำรถมาจอด ประมาณ 10.21 น.
จากนั้น เมื่อคนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะมาจอดแล้ว ได้มีชายอีกคน ขับรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน ซึ่งลักษณะเหมือนจอดรอ อยู่ตรงจุดจอดรถใกล้ตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ได้ขับรถออกมารับคนร้านที่ขับรถยนต์กระบะคาร์บอมมาจอดไว้ และคนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะคาร์บอม ได้เดินมาจะซ้อนท้าย แต่ในขณะนั้น คนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะ ได้นำเอาสิ่งของมาวางไว้ใกล้กับต้นไม้ ซึ่งเชื่อว่า เป็นระเบิดลูกแรก
จากนั้น คนร้ายทั้งสองคน ก็พากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางซอยด้านข้าง ศอ.บต. ก่อนที่ต่อมา รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 25 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 5 คน ประชาชน 13 คน มื่อมวลชนอีก 7 คน ทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลยะลา และโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จว.ยะลา, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร., พนักงานสอบสวน , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิด ซักถามพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังได้มอบเงินบำรุงขวัญ ให้แก่ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานในพื้นที่ สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานและเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการให้ สถานีตำรวจในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่โดยรอบของสถานีตำรวจและหน่วยราชการต่างๆ รวมไปถึงให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน
พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 หรือผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ระบุว่า จากการวิเคราะห์ เชื่อว่าการก่อเหตุระเบิด ครั้งนี้ เป็นผลมาจาก เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายอยู่ในขณะนี้ ซึ่งใช้เวลานานมากที่ทำการปิดล้อม ตอนนี้ก็ยังมีการยิงปะทะกันเป็นระยะๆ ส่วนความคืบหน้า ยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุยิง ชรบ.ทางลุ่ม บ้านลำพะยา แต่เป็นใครนั้น จะต้องรอการตรวจสอบ
ส่วนกรณีเหตุระเบิด วิเคราะห์ว่า จนท.ใช้กำลังในการปิดล้อม ไม่ว่ายะลา ปัตตานี ก็แจ้งเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง เตือนมา 2 วัน แล้ว ให้เพิ่มความเข้มในการควบคุมพื้นที่ ตรวจสอบรถและบุคคลต้องสงสัย กลุ่มคนร้ายอยากให้เจ้าหน้าที่ดึงกำลังออกมาจากการปิดล้อมในขณะนี้ ซึ่งในตอนนี้ในทางการสืบสวน ทราบว่า คนร้ายได้จี้ขโมยเอารถยนต์คันที่ก่อเหตุคาร์บอม มาจากพื้นที่เขตรอยต่อ อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา โดยคนร้ายจับผู้ขับรถมัดเอาไว้ข้างทาง ก่อนนำรถยนต์มาใส่ระเบิดที่เตรียมไว้แล้วนำมาก่อเหตุ ซึ่งผู้ขับรถที่โดนคนร้ายจี้ เข้ามาแจ้งทางเจ้าหน้าที่ช้าไป มารู้ตอนระเบิดแล้ว ถ้ารู้ก่อนเหตุจะไม่เกิดขึ้น การประกอบระเบิดใส่ในรถยนต์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย เป็นชั่วโมง ฉะนั้น เราก็ต้องปรับแผนตรงนี้