จากกรณี มีเพจดัง แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์แฉภาพของชายคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นคนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มีการกักตุนหน้ากากอนามัยไว้หลายล้านชิ้นและได้โพสต์ขายหน้ากากอนามัยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.บอกว่า
"มีหน้ากาก 5 ล้านชิ้น ราคาเบาๆ จับต้องได้ ราคา 14 บาทต่อชิ้น ซึ่งใช้ในโรงพยาบาลและทางการแพทย์ แถมยังไม่แบ่งขาย จะขายทีละ 1 ล้านชิ้น โชว์การเงิน หรือพานายทุนจีนมาซื้อ นายหน้าไม่ติดทุนไม่ต้องมาเสียเวลา ด่วนๆๆ ราคาไม่แรง หนา 3 ชั้น สินค้าอยู่กับกลุ่มทีมงานผม #ทำงานเป็นทีม"
จากการย้อนดูโพสต์เก่าๆพบว่า เริ่มมีการส่งหน้ากากอนามัยไปขายยังต่างประเทศ อย่างน้อยตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. แล้วมีการโพสต์รูปภาพตัวแทนกลุ่มทุนจากต่างประเทศ และมีคลิปที่เจ้าตัวบรรยายอ้างว่ามีหน้ากากอนามัยเก็บในสต๊อกจำนวนมาก
หลังจากเรื่องถูกเผยแพร่และถูกวิจารณ์อย่างหนัก ต่อมาชายคนดังกล่าวได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กคืนวานนี้ (8 มี.ค.) ว่าตนขอโทษผู้ชายที่ตนเรียกว่า "พี่เทพ" ที่คาดว่าน่าจะหมายถึงทีมงานรัฐมนตรีที่ตนสนิทด้วย จากการที่ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โพสต์การขายหน้ากากอนามัยลงเฟซบุ๊ก จนทำให้ถูกเปิดโปงได้ในที่สุด
เมื่อวันที่9มี.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร ขอชี้แจง ตนได้สอบถามข้อเท็จจริงกับนายพิตตินันท์ ยอมรับได้ไปพบกับนาย นายศรสุวีร์ ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยกันและไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก
และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องนี้ ตนเองได้ขอให้ นายพิตตินันท์ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัยและขายสินค้าเกินราคาและในความผิดที่ถูกนายศรสุวีร์แอบอ้างนำข้อความไปโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับให้นำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอีกทางแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากพบว่า นายพิตตินันท์ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ นายศรสุวีร์ดังกล่าว ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที ขณะที่ตนเอง จะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกเพจที่ลงข่าว ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนกรณีนายศรสุวีร์ กำลังพิจารณาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากไม่ได้พาดพิงโดยตรง ซึ่งได้ให้ทีมทนายความไปดูข้อกฎหมายแล้ว