ความเก๋า 'อาม่า' วัย 75 กับธุรกิจ ข้าวกล่องเดลิเวอรี่ คู่หูยายหลาน
logo TERO HOT SCOOP

ความเก๋า 'อาม่า' วัย 75 กับธุรกิจ ข้าวกล่องเดลิเวอรี่ คู่หูยายหลาน

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข้าวกล่องเดลิเวอรี่ คู่หูยายหลาน ข้าวกล่องอาม่า,ข้าวกล่องเดลิเวอรี่

2,823 ครั้ง
|
24 ก.พ. 2563

ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข้าวกล่องเดลิเวอรี่ คู่หูยายหลาน

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

จุดเริ่มต้น ข้าวกล่องอาม่า เดลิเวอรี่

 

ก่อนที่จะมาเป็นข้าวกล่องอาม่าเดลิเวอรี่ ที่ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ 'อาม่ารัตนา' เล่าว่า จุดเริ่มต้นย้อนกลับไปสมัยอาม่าอายุ 40 ปี ท่านอาศัยอยู่คนเดียวที่ย่านเจริญกรุง เคยเปิดร้านอาหารแถวสาทร ขายอยู่ใต้ตึกออฟฟิศ จนถึงตอนนี้อาม่าอายุ 75 ปีแล้ว ด้วยความเป็นห่วงของหลานชายเอง อยากให้มีคนคอยดูแลใกล้ ๆ

 

ประกอบกับอยากให้ครอบครัวใกล้ชิดกัน เพราะไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน จึงได้ชักชวนอาม่าให้มาอยู่ด้วยกันแต่ท่านไม่ยอมมา เพราะกลัวว่าจะเป็นภาระ คุณไบร์ทจึงอยากหาอะไรให้อาม่าทำท่านจะได้ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ จึงได้ชักชวนอาม่าร่วมธุรกิจของครอบครัวที่ชื่อว่า ข้าวกล่องอาม่า ซึ่งเป็นการเริ่มธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ๆ

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

'อาม่ารัตนา' เล่าอีกว่า เมื่อก่อนขายข้าวแกงขายมาตั้งแต่จานละ 10 -15 บาท ได้ประมาณ 20 ปี ขายวันหนึ่งก็ได้เกือบ1หมื่นบาทพนักงานส่วนใหญ่แถวนั้นล้วนก็เคยเป็นลูกค้าร้านของอาม่าทั้งนั้น แต่ก็ได้เลิกขายไปเพราะทำไม่ค่อยไหวไม่มีคนช่วย และอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรมาประมาณ 1 ปี ต่อมามีเพื่อนมาเปิดร้านอาหารแถวหัวมุมสาทรอาม่าก็ได้ไปช่วยอยู่ประมาณ 1 ปีแต่ก็ประสบปัญหาเรื่องค่าที่เช่าแพงแต่ก็ได้เลิกขายไป

 

ด้านคุณไบร์ท พิชญุตม์ อายุ 25 ปี พอเรียจบอยากหาอะไรให้อาม่าทำจึงได้มาปรึกษาอาม่าว่าอยากลองทำข้าวกล่องขายโดยให้อาม่าเป็นเชฟฝีมือเยี่ยมปรุงอาหารเอง และมีลูกมืออย่างหลานชายเป็นคนคอยช่วย 

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

โดยก่อนได้ฝึกงานอยู่ที่บริษัทเกี่ยวกับขายอุปกรณ์มือถือในห้าง รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 200 บาท เวลาพักเที่ยงกว่าจะได้ออกไปกินข้าวแต่ละครั้งต้องปิดร้านนานกว่า 1-2 ชั่วโมง คิดว่าถ้ามีบริการส่งข้าวมาเสริฟ์ถึงที่ก็คงดี จึงเป็นไอเดียของ 'ข้าวกล่องอาม่าเดลิเวอรี่นั้นเอง

 

ช่วงแรก ๆ กระแสการตอบรับ ที่ทำไม่ค่อยได้รับการตอบรับสักเท่าไหร่ มีออร์เดอร์ประมาณ 50-100 กล่องต่อวัน ด้วยความที่ไม่ได้มีหน้าร้านคนก็ไม่ค่อยรู้จักเยอะ จึงมีการทำโบว์ชัวร์แจกตามบริษัท ตามห้างสรรพสินค้า มีการจัดโปรโมชั่นสั่งครั้งแรก กล่องละ 29 บาท สั่งผ่านไลน์และมีการจัดส่งฟรี

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

ซึ่งในครั้งแรกทางครอบครัว และ อาม่ารัตนา ก็ไม่ได้เห็นด้วย ท่านมองว่าใครก็ทำได้ และด้วยความที่คุณไบรท์เรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจ มีโอกาสทำงานเยอะกว่า เงินเดือนก็มั่นคงกว่า ทำไมต้องมาทำอาหารมันเหนื่อย แต่มีคุณแม่คอยสนับสนุน ส่วนคุณพ่อท่านอยากให้รับทำธุรกิจที่บ้านขายส่งสินค้าหรือทำงานในบริษัทมากกว่า จึงขออาม่ากับคุณพ่อไว้ 2 เดือนถ้าลองขายแล้วยอดขายไม่ดีขึ้นจะเลิกทำ

 

แต่คุณไบร์ทไม่ได้จบแค่ตรงนั้น ธุรกิจข้าวกล่องอาม่าเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกเรื่อยๆ ด้วยความที่เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น คุณไบร์ทนำความรู้เรื่องระบบเข้ามาช่วยในเรื่องของการรับออร์เดอร์ การส่งออรเดอร์ให้ลูกค้า เมื่อก่อนการรับออร์เดอร์จะมีคุณพ่อคอยรับออร์เดอร์ ประมาณ 50 กล่องต่อวัน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเฉลี่ยวันละ 1,500 กล่องต่อวันถ้าเป็นวันที่มีการสั่งเยอะ ๆ ก็จะเฉลี่ย 9,000 กล่องต่อวัน 

 

ส่วนการส่งออร์เดอร์มีหุ้นส่วนที่ทำร่วมกันเป็นรุ่นน้องคอยช่วยส่งออร์เดอร์ให้กับลูกค้าโดยมีมอเตอร์ไซด์ของคุณไบร์ทเอง แต่ตอนนี้ได้จ้างคนรับส่งอาหารมีคนส่งอาหารประมาณ 20 คน หลักๆจะเน้นส่งบริเวณพื้นที่คลองเตย พระราม 3, พระราม 4, สุขุมวิท และ อโศก ไม่ว่าจะส่งกล่องเดียวก็ฟรีค่าส่ง ถ้ามีการส่งรอบนอกก็จะคิดค่าส่งนิดหน่อย นอกจากนี้ทางร้านยังมีการเข้าร่วมกับแกร๊ปฟู้ด ฟู้ดแพนด้า และ เก็ทฟู้ดสามารถสั่งบริการเดลิเวอรี่ได้เหมือนกัน

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

พอทำไปได้สักพักคุณไบร์ทกับอาม่ารัตนา ก็มองว่าธุรกิจข้าวกล่องนี้พอจะไปได้ 'อาม่ารัตนาบอกว่า มีความสุขการได้ทำอาหาร อยู่หน้าเตา เป็นคนผัดเองปรุงเองใส่ใจกล่องต่อกล่องและมีลูกมือที่เป็นคนคอยช่วย มันเป็นความเคยชินของอาม่าไปแล้วเพราะรู้สึกสนุกที่ได้ทำตรงนี้

 

'อาม่ารัตนายังบอกเคล็ดลับในการทำอาหารให้อร่อยอีกด้วยว่า อาศัยการทำอาหารมานาน เวลาปรุงอาหารตั้งใจทำออกมาให้สุดฝีมือ ให้ลูกค้าที่ได้กินข้าวกล่องของอาม่ามีความสุขในการกิน กินแล้วรู้สึกชอบ และกลับมาสั่งอีก

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

ปัจจุบันทางร้านไม่ได้มีแค่อาหารคาวอย่างเดียวจะมีหมวดขนมหวาน น้ำผลไม้ด้วย อาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย มีประยุกต์บ้าง ปัจจุบันมี 150 เมนู อาหารคาวราคาเริ่มต้นที่กล่องละ 49 บาท หมวดน้ำเริ่มต้นที่ 15 บาท ของหวานจะเป็นขนมไทย เริ่มต้นที่ 29 บาท

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

การเรียนรู้ของการทำธุรกิจ บอกก่อนเลยว่า คุณไบร์ท พิชญุตม์ ไม่ได้เรียนการทำธุรกิจอาหารมาก่อน เกี่ยวกับการบริหารร้านอาหารเลย ช่วงแรกก็ได้มีการไปดูตามร้านอาหารว่าเขามีการรับออร์เดอร์แบบไหน ถ้าหลังจากนั้นมีออร์เดอร์เยอะขึ้นจะใช้วิธีการจดเหมือนเดิมก็คงไม่ทัน ก็มีเรื่องของระบบเข้ามาช่วย จึงได้ทำเว็บไซต์ขึ้นมาช่วยในเรื่องนี้ เป็นระบบที่พัฒนามาเรื่อย ๆ

 

ทำให้คุณไบร์ท์ มองว่า เราสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง เป็นธุรกิจอาหารที่ได้ทั้งกระแสตอบรับลูกค้ารายวัน สามารถแก้ไขได้โดยอย่าง เช่น คำติชมจากลูกค้า ในส่วนของรสชาติ, แพ็กเกจ และบริการต่างๆ โดยไม่ต้องแก้ปัญหาด้วยเงินจำนวนมาก เรื่องการส่งอาหารให้ลูกค้าไม่ทันเราก็จะเอาตรงนั้นมาปรับปรุงแก้ไข และนี้ก็คือสิ่งที่ไบร์ทได้เรียนรู้จาการทำธุรกิจนี้

 

ความสำเร็จของข้าวกล่องอาม่า เดลิเวอรี่

 

TERO HOT SCOOP : ความเก๋าอาม่าวัย 75 กับธุรกิจ ข

 

'ข้าวกล่องอาม่าเดลิเวอรี่เติบโตเร็วขึ้น 'คุณไบร์ท พิชญุตม์' คิดว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจมากกว่า อีกหนึ่งที่ทำให้ข้าวกล่องอาม่าประสบความสำเร็จ คือ เป็นเพราะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจริง ๆ ก็ประกอบกับอะไรหลายๆอย่าง ธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งธุรกิจที่ไม่ได้ใช้เงินเยอะ และ เทรนด์เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่มักจะสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่เพราะด้วยความสะดวกสบาย ทำให้ตอบโจทย์ของธุรกิจอาหารของเรา

 

ยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างหลากหลาย การเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่างตั้งใจ ถ้าเรามีความเชื่อมั่น ตั้งใจ ลงมือทำ ประกอบกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างข้าวกล่องอาม่าธุรกิจต่างวัยของยายหลาน ที่เริ่มจาการเรียนรู้ด้วยตัวเองจนธุรกิจของคุณไบร์ทประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้ เพราะความพยายามสร้างจุดเด่นของข้าวกล่องเดลิเวอรี่ และ พัฒนามาเรื่อย ๆนั้นเอง