วันที่ 25 ธ.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจปคม. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจสภ.บ้านแพ้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าตรวจค้นวัดป่าสุวัฑฒนาราม (วัดทุ่งอินทรี) หมู่ 11 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยนำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในวัดเพื่อจับกุมพระครูสังฆรักษ์ ศักดิ์สิทธิ์ กิตติโก หรือ นายศักดิ์สิทธิ์ สนบ้านแผ้ว รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุวัฑฒนาราม (ทุ่งอินทรี) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาจังหวัดสมุทรสาคร
ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, พาผู้อื่นไปเพื่อการกระทำอนาจาร โดยใช้กลอุบายหลอกลวงหรือข่มขู่ประทุษร้ายซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดานหรือกระทำต่อศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการในลักษณะลามกอนาจาร โดยจับกุมตัวพระครูสังฆรักษ์ ได้ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ภายในวัดดังกล่าวขณะกำลังจะออกบิณฑบาต
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเณรที่ตกเป็นเหยื่อของพระครูสังฆรักษ์หรือนายศักดิ์สิทธิ์ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว แสดงพฤติกรรมของรักษาการเข้าอาวาส ซึ่งพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน กระทำอนาจารต่อสามเณรที่มาบวชเรียนช่วงปิดภาคเรียนและเด็กวัด
โดยรักษาการเจ้าอาวาสจะทำการยึดโทรศัพท์มือถือของสามเณรและเด็กวัดทุกคนเพื่อป้องกันการแอบถ่ายหรือโทรศัพท์ไปบอกให้กับคนอื่นทราบ ซึ่งจะให้เณรใช้โทรศัพท์ได้เฉพาะช่วงเวลา 19.00 - 21.00 น. แต่เรื่องมาแดงขึ้นเมื่อเหยื่อเริ่มทนพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว จึงได้แอบถ่ายภาพหลักฐานและแอบติดต่อกับผู้ปกครองจนมีการร้องเรียนและนำมาสู่การจับกุมตัวดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวมีสามเณรทั้งหมด 19 รูป แบ่งเป็นสามเณรอายุต่ำกว่า 18 ปี 18 รูป อายุ 19 ปี 1 รูป และเด็กวัดอีกจำนวน 10 คน ซึ่งสามเณรที่อายุน้อยสุดในจำนวนนี้มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้น โดยเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกับเตรียมประสานไปยังสำนักพระพุทธศาสนา เพื่อให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มสามเณรรูปอื่น ๆ ที่เคยมาบวชเรียนอยู่ที่วัดดังกล่าว
โดยขณะเข้าตรวจสอบและตรวจค้นกุฏิต่าง ๆ ภายในวัดดังกล่าว พบโทรศัพท์มือของสามเณรที่ถูกเก็บไว้จำนวนหลายเครื่อง พร้อมกับตรวจพบถุงยางอนามัยใช้แล้ว ที่บริเวณด้านหลังกุฏิพักของสามเณรตกอยู่ และยังพบถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้ 3 อัน จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับเชิญตัวพระครูสังฆรักษ์ไปทำการลาสิกขาจากความเป็นพระเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านผู้ปกครองของสามเณร อายุ 14 ปี ซึ่งบวชได้ 3 ปี ระบุกับผู้สื่อข่าวว่า “ตนเองรู้สึกเครียดและกังวลกลัวลูกจะตกเป็นเหยื่อหรือถูกกระทำ ที่ผ่านมาลูกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังมีแต่บ่นว่าอยากสึกอย่างเดียว เมื่อถามว่าทำไมถึงอยากสึกก็บอกเพียงว่าเบื่อ และลูกเคยหนีออกจากวัดไปหาญาติที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่พ่อกับแม่ก็ไปพาตัวกลับมาที่วัด และไม่คิดว่ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ส่วนที่ต้องให้ลูกมาบวช เพราะตนเองกับสามีทำงานรับจ้างไปวัน ๆ อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี”
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qxZ9MiprG9o