ขอนแก่น - ตำรวจ สภ.กระนวน คุมตัวนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ ส่งฟ้องศาลฝากขังผลัดแรก 3 ข้อหาพร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างบันดาลโทสะ ขณะที่ชาวกระนวนร่วมร้อยคนมารอรุมประชาทัณฑ์ขณะคุมตัวขึ้นรถ
พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงศ์ราช ผกก.สภ.กระนวน พร้อมพนักงานสอบสวน คุมตัวนายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ ฉายา คิด เดอะริปเปอร์ ซึ่งลงมือก่อเหตุล่าสุดโดยฆ่ารัดคอนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เสียชีวิตในบ้านผู้ตาย ที่ บ้านใหม่ชัยมงคล ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ออกจากห้องคุมขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยขณะที่ตำรวจคุมตัวนายสมคิดออกจากห้องคุมขังมาที่ห้อสอบสวนนั้น นายสมคิดมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม สดชื่อแจ่มใส นิ่งเฉย ไม่มีท่าทีสะสะท้านแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาสอบปากคำเพิ่มเติมประมาณ กว่า 30 นาที จึงควบคุมตัวนายสมคิด ขึ้นรถตู้ของตำรวจ ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่รถปรากฏว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมร้อยคนมายืนรอและหวังจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างแน่นหนา ทำให้ไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด ซึ่งตลอดที่ควบคุมตัวออกจากห้องสอบสวนไปขึ้นรถตู้นั้น ชาวบ้านต่างด่าทอ สาปแช่งนายสมคิด ตลอดเวลาด้วยความโกรธแค้นแทนผู้เสียชีวิตและญาติผู้เสียชีวิต
พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์วงษ์ราช ผกก.สภ.กระนวน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่นายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่า นางรัศมี มุลิจันทร์ หรือฝ้าย อายุ 51 ปี ตายในบ้านพักที่บ้านใหม่ชัยมงคล ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พบศพช่วงเย็นวันที่ 15 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและรวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมตัวนายสมคิดได้บนรถไฟ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมและนำตัวมาสอบสวน รับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายจริงแต่เป็นการพลั้งมือ ขณะทะเลาะกับผู้ตาย จากนั้นได้ขึ้นรถโดยสารจากอ.กระนวนไปในเมืองขอนแก่น เพื่อเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในรพ.ขอนแก่น ขับขี่หลบไปไปยังจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เพื่อขึ้นรถไปหลบหนีกระทั่งถูกจับกุมได้
วันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาจากเดิมที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้เจตนาฆ่า จึงไม่ยอมไปทำแผนในบ้านแต่จะพาไปชี้จุดที่เข้าพัก ตามเส้นทางที่หลบหนี จุดแรกจุดที่ผู้ต้องหามารอรถโดยสายขึ้นรถเข้าไปเอารถในเมืองขอนแก่น จุดจุดที่ 2 โรงจอดรถ จยย. โรงพยาบาลขอนแก่น เป็นจุดที่ผู้ต้องหาขี่รถ จยย.มาจอดทิ้งไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. จุดที่ 3 ลานจอดรถด้านหลัง รพ.มหาสารคาม จุดที่ 4 ร้านสะดวกซื้อหน้า รพ.มหาสารคาม จุดที่ 5 โรงแรมสายทิพย์ จ.ร้อยเอ็ด เ จุดที่ 6 ร้านขายเสื้อผ้า หน้า รพ.ร้อยเอ็ด จุดสุดท้ายที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เป็นจุดที่ซื้อตั๋วรถไฟเพื่อหลบหนี เมื่อสิ้นสุดการชี้จุดจึงนำตัวนายสมคิด มาคุมขังที่สภ.กระนวน ในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ผกก.สภ.กระนวน กล่าวต่ออีกว่า หลังพบศพคนตาย ได้ขอศาลอกหมายจับผู้ต้องหา ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย แต่หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหา จนนำมาสู่การสอบสวน และผู้ต้องหานำชี้จุดพักตามเส้นทางที่หลบหนี จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่ม เป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ ลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าฆ่าผู้อื่น และปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาและไตร่ตรอง ส่วนข้อหาอื่นๆ ก็ให้การปฏิเสธเช่นกัน ซึ่งผู้ต้องหาให้การวกวน ตอนแรกที่ถูกสอบสวนจะยอมรับสารภาพแต่ตอนหลังให้การปฏิเสธ ไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย อ้างว่า เหตุการณ์เกิดจากการทะเลาะวิวาท โดยผู้ตายไม่พอใจที่หายจากบ้านแล้วไม่ไปรับผู้ตายจากที่ทำงานกลับบ้านและเมื่อผู้ต้องหากลับมาที่บ้าน กลับมาด้วยรถจักรยานยนต์คันอื่น ผู้ตายจึงหึงหวง ทะเลาะกันในช่วงเย็นวันที 14 ธันวาคม ด้วยสาเหตุดังกล่าว เช้าวันที่ 15 ธันวาคม ขณะที่ผู้ต้องหาลุกจากที่นอน เพื่อไปหุงหาอาหาร ผู้ตายได้ลุกขึ้นกระชากแขน ข่วนหน้า และกัดนิ้วมือ ถอดกางเกงในปาใส่หน้า จึงโมโห ผลักผู้ตายล้มลงใส่ที่นอน บีบคอ ช่วงเวลาดังกล่าวผู้ตายยังมีสติเรียกให้เพื่อนบ้านช่วย กลัวชาวบ้านมาจับตัว ทุกอย่างจึงเลยเถิด คว้าเอาสายไปในบ้าน เทปกาวรัดคอผู้ตายจนขาดใจตายคามือ ทั้งหมดนี้เป็นคำให้การของผู้ต้องหา และให้การปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ผกก.กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่จากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตายของนางรัศมีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาอย่ารอบคอบแล้ว จึงได้แจ้งข้อหาดังกล่าว และรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ส่งตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น โดยก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหาชี้ภาพถ่ายยืนยันตัวตนว่า ภาพบุคคลที่ชี้จุดต่างๆตามเส้นทางที่หลบหนีนั้นเป็นตัวตนของตัวเองหรือไม่ ซึ่งนายสมคิดยืนยันว่าเป็นตัวเองทุกภาพ และการชี้ภาพถ่ายนั้น ทำต่อหน้าทนายความอาสาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดหาให้ เพื่อแสดงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำทุกขั้นตอนด้วยความยุติธรรม โปร่งใส่ ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาได้ร้องขอดูทรัพย์สินที่ติดตัวไปก่อนจะถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำมาให้ดู เมื่อขั้นตอนต่างๆในภาพรวมถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ทันทีที่นายสมคิด เดินทางมาถึง ศาล จ.ขอนแก่น ด้วยรถยนต์ควบคุมตัวผู้ต้องหาของ สภ.กระนวน นายสมคิดถูกส่งไปทำการควบคุมที่ชั้น 1 ของศาลทันที ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออำนาจศาลฝากขังพลัดแรก เป็นเวลา 12 วันเพื่อทำการสอบสวนทางคดี โดยศาล จ.ขอนแก่น ได้รับคำร้องดังกล่าวก่อนมีคำสั่งรับฟ้องและไม่อนุญาตให้ประกันในชั้นศาล จากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ได้นำรถมารับตัวนายสมคิด ไปทำการควบคุมพลัดแรกตามคำสั่งของศาล จ.ขอนแก่น ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นทันที
และในเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวดับการเปิดเผยจากนายไพสันต์ ขุ่ยรานหญ้า ผู้อำนวยการที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น กล่าวว่า หลังรับตัวนายสมคิด พุ่มพวงมายังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น หรือเรือนจำพิเศษขอนแก่น ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบตามขบวนกาของกรมราชทัณฑ์ทั้งการซักประวัติและการตรวจสุขภาพร่างกาย ซึ่งนายสมคิดก็เป็นผู้ต้องขังทั่วไปที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นายสมคิด ถูกขังเดี่ยว ใส่ตรวนและมีวงจรปิดดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ห้ามพูดคุยกับนักด้วยรายอื่นด้วยเด็ดขาด จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล จึงจะถูกย้ายไปอยู่ที่เรือนจำกลางขอนแก่น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติของกรมราชทัณฑ์
+ อ่านเพิ่มเติม