กระแสการท่องเที่ยวของคนไทยนิยมออกเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้น เพราะปัจจัยการเดินทางที่สะดวกสบาย รวดเร็วและง่ายกว่าในอดีต อีกทั้งตอนนี้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศถูกลง ซึ่งนับจากข้อมูลของศูนย์วิจัยด้านการตลาดท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่าจำนวนประชากรไทยที่มีการเดินทางไปท่องเที่ยวต่าง มีจำนวน 1,349,957 คน โดยมีค่าเฉลี่ยในการเดินทางต่างประเทศ 1.26 ครั้งต่อคน
จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการท่องเที่ยวต่างแดนนั้นมีหลากหลายเส้นทางด้วยกัน แต่ปลายทางที่เป็นที่นิยมที่สุดได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศลาว และประเทศจีน สำหรับประเทศจีนนั้นกระแสการท่องเที่ยวขณะนี้นับว่า ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งเป้าหมายของการเดินทางมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกันอาทิ ธรรมชาติที่มีหลากหลายอย่างจิ่วไจ้โกว ลี่เจียง, ศิลปะวัฒนธรรมที่เก่าแก่อย่างฉงชิ่ง ซีอาน หรือแม้แต่กระแสของละคร นิยาย หนัง และซีรีส์ที่มีชื่อเสียงอย่าง ‘เฉินฉิงลิ่ง’ หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า ‘ปรมาจารย์ลิทธิมาร’
และนอกจากนี้สายการบินในประเทศไทยก็ได้ทำการเปิดเส้นทางการบินมุ่งตรงไปยังเมืองต่างๆ ของประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้สะดวกต่อการเดินทาง
"ประเทศจีนเป็นประเทศที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าประเทศอื่น" : อภิพร อัศวจิตตานนท์
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ อภิพร อัศวจิตตานนท์ หนึ่งในผู้ที่เดินทางประเทศจีนบอกว่า ส่วนตัวเคยเดินทางไปประเทศจีนสองครั้ง และเดินทางไปหลายเมืองด้วยกัน ส่วนตัวคิดว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าประเทศอื่น อย่างเช่น เรื่องของวีซ่าที่สามารถขอครั้งเดียวได้เลย ไม่มีปัญหา ไม่เหมือนประเทศอื่นและอีกอย่างหนึ่งคือ ถึงจีนจะตรวจละเอียดก็จริงแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเข้าประเทศที่ยาก อีกทั้งช่วงที่ไปราคาตั๋วเครื่องบินมันไม่แพง ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
อภิพร เล่าต่ออีกว่า ตอนที่เดินทางไปเที่ยวนั้นเจอคนไทยเยอะมาก และโรงแรมที่ไปพักในชั้นเดียวกันก็มีคนไทยอยู่ 5 - 6 ห้องเห็นจะได้ อีกทั้งการเดินทางในประเทศจีนไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนไทยเที่ยวได้ง่าย เช่น ราคาตั๋วเครื่องบิน อาหารในโรงแรมที่จีนเหมือนจะมีให้รองรับกับคนไทยด้วย รสชาติจะถูกปากคนไทย แล้วเวลาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ มักจะมีบางร้านที่คนจีนสามารถพูดภาษาไทยได้ ยิ่งทำให้ดึงดูดและลดความกังวลในการซื้อของได้เยอะ
"รู้สึกว่าเขาพร้อมสนับสนุนเราหรือคนต่างชาติ" : ธัญญาพร จันทร
ขณะที่ ธัญญาพร จันทร นักท่องเที่ยวสาวไทยอีกรายที่มีประสบการณ์ไปประเทศจีน กล่าวว่า ตอนแรกที่ตัดสินไปเพราะว่าเห็นรูปจากไกด์ทัวร์แล้วรู้สึกว่าที่เที่ยวของจีนสวย วัดสวย บรรยากาศดี อีกทั้งรู้สึกว่ามีคนไทยไปเที่ยวที่ประเทศจีนเยอะ เพราะไปแต่ละสถานที่ก็จะเจอคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆให้เข้าใจได้ ซึ่งตอนที่ตนไปห้างแห่งหนึ่ง ในโซนเครื่องประดับมีพนักงานคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ มันทำให้รู้สึกว่าเขาพร้อมสนับสนุนเราหรือคนต่างชาติ
และถ้ามีโอกาสจะไปอีกเพราะครั้งที่แล้วตนไปเที่ยวได้ไม่กี่เมือง ซึ่งจีนเองเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ ยังคงมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายที่ที่อยากจะไป
"จีนเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถเดาได้ ทุกครั้งที่ไปจะได้อะไรกลับมามากมาย" : กรรณิการ์ พิริยะกิจไพบูลย์
เช่นเดียวกับ กรรณิการ์ พิริยะกิจไพบูลย์ หรือ โบโบ จากเพจ ‘เจ๋อโบ กวนจีน’ เพจและแชนเนลเกี่ยวกับการให้ความรู้ภาษาจีน รวมไปถึงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศจีนและประเทศไต้หวัน ที่มีผู้ติดตามกว่า 600,000 คนในเฟซบุ๊กและ 177,000 คนในยูทูป
ซึ่งโบโบได้บอกกับเราว่าการเดินทางในแต่ละครั้งนั้นมีเสน่ห์ตรงการเดินทาง เพราะแต่ละครั้งมันมีเรื่่องราว ความทรงจำในตัวของมัน และในการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับจีนค่อนข้างมีความแตกต่าง ซึ่งถ้าเที่ยวในไทยจะมีความสบายใจมากกว่า เพราะมันเป็นภาษาบ้านเกิดของเรา จะมีอารมณ์ในเชิงพักผ่อนมากกว่า แต่ถ้าเป็นการท่องเที่ยวในจีนจะมีบรรยากาศในเชิงผจญภัย จีนเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถเดาได้ ทุกครั้งที่ไปจะได้อะไรกลับมามากมาย
ถ้าถามถึงความนิยมไปเที่ยวจีนของคนไทยนั้น โบโบมองว่าถ้าเมื่อก่อนก็อาจจะไม่ค่อยมีคนสนใจไปท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ แต่ถ้าในปัจุบันคนไทยเริ่มนิยมไปเที่ยวจีนค่อนข้างเยอะ เพราะว่าสมัยนี้จีนเริ่มมีการโปรโมทการท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน อีกทั้งในปัจจุบันยังมีโครงการให้ทุนต่าง ๆ เพื่อไปศึกษายังประเทศจีนอีกด้วย
นอกจากนี้เราจะสังเกตได้อีกอย่างว่าสายการบินในประเทศไทยขณะนี้ได้เปิดเส้นทางบินใหม่โดยเฉพาะเส้นทางการบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังประเทศจีนเยอะขึ้น เมื่ออ้างอิงถึงข้อมูลจากทางสายการบิน อาทิ สายการบินแอร์เอเชียที่มีเส้นทางการบิน บินตรงกรุงเทพฯ-เฉิงตู หรือมีแม้กระทั้งเส้นทางการบนภูเก็ต-คุนหมิง ไทยสู่ประเทศจีน เพิ่มเป็น 14 เมือง 22 เส้นทาง รวมไปถึงเพิ่มความถี่เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่หลายเมืองในประเทศจีน แอร์เอเชียยังได้เพิ่มความถี่เที่ยวบิน ที่บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เมืองต่างๆ ในประเทศจีน เช่น กรุงเทพฯ-ซีอาน จาก 1 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนนั้น ยังนับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ถือว่าเป็นเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่าทำไมคนไทยจึงนิยมไปเที่ยวเมืองจีน เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี และในอนาคตข้างหน้า คาดว่ามีเกณฑ์ที่จะเพิ่มขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้ากระแสคนจีนนิยมมาเที่ยวไทยก่อนหน้านี้เลยจริงๆ
หากจะมองให้ลึกกว่านี้นี่จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ หรืออาจจะส่งสัญญาณได้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยกำลังเป็นที่ถดถอย หรือไม่มีความนิยมเหมือนอย่างแต่ก่อน คนไทยจึงนิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวจีนก็เริ่มเดินทางมายังประเทศไทยลดลง สืบเนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศ ค่าเงินหยวน และกระแสการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปของตัวนักท่องเที่ยว จากเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ เป็นการท่องเที่ยวเชิงครอบครัวหรือแบ็กแพ็คแทน อีกทั้งข่าวอุบัติเหตุเรือล่มที่ภูเก็ตส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวอย่างมากในเรื่องของความปลอดภัย ทำให้อัตรานักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงอย่างมากใน 8 เดือนที่ผ่าน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงประเทศเวียดนามได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก
แม้ว่าในเดือนกันยายนถึงเดือนสิงหาคม และช่วงวันหยุดยาววันชาติจีนที่ผ่านมา ทำให้อัตรานักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้นแต่ก็ยังไม่เหมือนช่วงปีก่อนหน้า มาถึงตอนนี้นี่นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายแก่การท่องเที่ยวไทยในปี 2563 เป็นอย่างมาก