'หมอวรงค์' นำทีมรวมพลังประชาชาติไทยเปิดเวทีปราบลัทธิชังชาติที่พิษณุโลก
logo TERO HOT SCOOP

'หมอวรงค์' นำทีมรวมพลังประชาชาติไทยเปิดเวทีปราบลัทธิชังชาติที่พิษณุโลก

TERO HOT SCOOP : พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดอบรมหลักสูตร อุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง เพื่อสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง การใช้โซเชียลมีเดีย จากลั หมอวรงค์,พรรครวมพลังประชาชาติไทย,ลัทธิชังชาติ,พิษณุโลก,ปราบลัทธิชังชาติ

9,113 ครั้ง
|
13 ธ.ค. 2562
พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดอบรมหลักสูตร อุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง เพื่อสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง การใช้โซเชียลมีเดีย จากลัทธิชังชาติให้แก่ภาคประชาชน
 
วันนี้ที่ โรงแรมวังแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีประชาชน ผู้สนใจเข้าร่วมอบรม หลักสูตร อุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กกต. ตามสัดส่วนของ ส.ส.ที่ให้แต่ละพรรคการเมืองได้จัดการอบรมให้ความรู้ด้านการเมืองมิติต่าง ๆ แก่ประชาชน
 
โอกาสนี้ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้บรรยาย เรื่องรัฐธรรมนูญกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้ผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนกว่า 300 คน ได้รับทราบถึงสภาพปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นจาก นักการเมืองและผู้ที่กำลังสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ เกิดความไม่สงบหรือทำลายชาติ ซึ่งเป็นแนวความคิดในลักษณะของลัทธิชังชาติ ให้เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
 
นายแพทย์วรงค์ ได้อธิบายความหมายของ ลัทธิชังชาติให้ ประชาชน ได้ช่วยเฝ้าระวังและตักเตือนคนในครอบครัวและบุตรหลาน ว่าอย่าได้ตกเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือของลัทธิชังชาติ อย่าไลก์ อย่าแชร์ เพื่อช่วยกันป้องกัน 3 สถาบัน อันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของคนไทย คือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีการกระทำของ ลัทธิชังชาติ ที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ประกอบไปด้วย 5 พฤติกรรม คือ
 
1. พูดจา โพส แชร์ ดูหมิ่น สถาบัน พระมหากษัตริย์ ตามความต้องการที่จะทำให้ประเทศชาติล่มสลาย ขาดสิ่งยึดเหนียว รวมกันเป็นหนึ่ง เป็นชาติไทยที่มีมายาวนานมากกว่า 700 ปี และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ทำได้
 
2.ไม่ส่งเสริมศาสนา ทุกศาสนา และพยายามนำเอาศาสนามาสร้างความขัดแย้งแก่กัน ซึ่ง ประเทศไทย เป็นประเทศที่รักใคร่กลมเกลียวอยู่อาศัยพึงพากันด้วยดีมาตลอด ไม่ขัดแย้งกัน แต่มีความพยายามจะทำให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
3.ดูถูกวัฒนธรรมตนเอง ตามที่มีความพยายามทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่า วัฒนธรรมเป็นสิ่งล้าหลัง ไม่ทันสมัย ความเป็นไทย เป็นสิ่งที่ไม่สากล และให้จะลืมรากเหง้าวัฒนธรรมของวิถีชีวิตแต่ละภูมิภาค ความเป็นเครือญาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว วัฒนธรรมไทย เป็นสิ่งที่ชาติตะวันตกไม่มี และเป็นเครื่องมือดึงดูดการท่องเที่ยว ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชาติ หากถูกทำลายลงไป ประเทศชาติก็จะเสียหาย
 
4.ประจานประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาแทรกแซง เป็นเรื่องไม่ควรทำ ไม่ควรให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงภายในประเทศไทย การวิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาล เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ทุกรัฐบาล แต่การนำเอาชาวต่างชาติมาวิพากษ์วิจารณ์ สถาบันพระมหากษัตริย์และตุลาการ เป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจและความรู้สึกของคนไทย เป็นอย่างมาก
 
5.ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล กระบวนการยุติธรรม เป็นอีกหนึ่งเสาหลักของประเทศชาติ ซึ่งทุกประเทศจะยึดเอากระบวนการยุติธรรม เป็นหลักสำคัญ แต่มีความพยามทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากทำสำเร็จ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง การฝ่าฝืนกฎหมาย โดยอ้างว่ากระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ
 
นายแพทย์วรงค์ บอกว่า พฤติกรรมลัทธิชังชาติ 5 ข้อ นี้เป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทย จะไม่ทำกันมานานแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องเอาออกมาพูดคุยกัน เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้รู้เท่าทันกลุ่มการเมือง ที่พยายามเคลื่อนไหวตามแนวความคิดลัทธิชังชาติ และช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มีการบิดเบือนพฤติกรรมลัทธิชังชาติ 5 ข้อ ให้ผิดไปจนกลายมาเป็น 
 
1.พูดจา โพส แชร์โพส วิพากษ์ วิจารณ์ การทำงานของรัฐบาล 2.ไม่ช่วยปกป้องศาสนา 3.ดูถูกรากเหง้าวัฒนธรรมของตนเอง 4.ให้ร้ายประเทศไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน 5.ไม่เคารพเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่
 
โดยหลังจากนี้ อยากให้ประชาชนได้เข้าใจ ถึงพฤติกรรมของ ลัทธิชังชาติ เพื่อได้คอยเตือนลูกหลานและบุคคลในครัวเรือน อย่าได้ทำหรือส่งเสริม พฤติกรรมทำลายประเทศชาติ รวมถึงอย่า กดไลก์ กดแชร์ พฤติกรรมลัทธิชังลาติ ในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ ไม่ได้เด็กหรือคนรุ่นใหม่ ได้เข้าใจผิดว่าพฤติกรรมชังชาติเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 
 
และหลังจากนี้พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเปิดเวทีอีกที่ จังหวัดนครปฐม บึงกุ่ม อุดรธานี กาญจนบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร รวม 9 ครั้ง และการอบรมในครั้งนี้ที่จังหวัดพิษณุโลกยังมี ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหาร พรรครวมพลังชาติไทย ยังได้บรรยาย เรื่องพระมหากษัตริย์และความเป็นไทย ให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้ฟัง รวมถึงมีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการใช้ โซเชียลมีเดีย ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง