การประชุม คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาสำนวนคำร้อง ขอให้มีการตรวจสอบการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท จากนายธนาธร จึงเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าเข้าข่ายเป็นการบริจาคเกิน10 ล้านบาทที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้หรือไม่
ล่าสุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าเหตุผลที่ต้องขอกู้เงินจากนายธนาธร เพราะพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่เพิ่งก่อตั้ง มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ทั้งการตั้งสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด แต่ คสช. ยังไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมือง จึงทำให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงินหรือลงทุนไม่ได้ แต่พรรคการเมืองจำเป็นต้องใช้เงิน จึงใช้ช่องทางกู้เงินเพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของพรรคการเมืองในฐานะนิติบุคคลเอกชน ประกอบกับไม่ต้องการให้พรรคอนาคตใหม่เป็นของนายธนาธรเพียงคนเดียว จึงเห็นควรให้กู้เงินและใช้คืนในภายหลัง
นายปิยบุตร ยืนยันว่า การกู้เงินไม่ได้ถือเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนข้อสังเกตเรื่องนิติกรรมอำพราง เพราะต้องการบริจาคเงินเกินกว่า 10 ล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบริจาค มีหลักฐานการทยอยใช้เงินคืน ส่วนการอ้างถึงมาตรา 72 ก็มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันการเอาเงินจากกระบวนการผิดกฎหมายดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พร้อมย้ำถึงการตีความกฎหมาย ต้องตีความอย่างเคร่งครัด จะขยายความโดยอ้างเจตนารมณ์ไม่ได้ เพราะเป็นคดีกล่าวหาที่มีโทษทางอาญาให้จำคุก หากต้องการไม่ให้พรรคการเมืองกู้เงิน ก็ควรแก้กฎหมายพรรคการเมืองให้ชัดเจน
นายปิยบุตร ย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมแจกแจงข้อมูลอย่างโปร่งใส และประสงค์ไม่ให้บุคคลผู้ใดเข้ามาครอบงำพรรค แต่กลับกลายเป็นว่าโดนคดีความ สุดท้ายคนโปร่งใสโดนจับผิด คนไม่อยากโดนคดีความก็ไปซุกทรัพย์สิน กระบวนการซ้ำไปซ้ำมา ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุก และอยากให้มองว่ากระบวนการนิติสงครามที่ใช้กันอยู่ มีแต่ทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม