กลุ่ม ปตท.ร่วมกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปี 2563 อยู่ที่ 55-65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมไปถึงการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศนอกกลุ่มโอเปก
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา 2019 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “Sustainable Energy…Shaping A Better Future อนาคตพลังงาน สานพลังเพื่อความยั่งยืน”
โดยทีมวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานน้ำมัน ร่วมกับ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นำเสนอทิศทางและแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก เพื่อเตรียมกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของโลกเติบโตอยู่ที่ ร้อยละ 3.4 ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบขยายตัว ราว 1-1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตามองก็คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมถึงความต้องการออกจากสหภาพยุโรป ของสหราชอาณาจักร ที่จะส่งผลกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน
ขณะเดียกวันอุปทานน้ำมันดิบตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น สหรัฐฯ ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันที่เติบโตช้าลง ทำให้กลุ่มโอเปก ต้องใช้นโยบายควบคุมการผลิต เพื่อรักษาสมดุลของตลาด
ทีมนักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2563 จะอยู่ที่ช่วง 55-65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
+ อ่านเพิ่มเติม