เรื่องดังกล่าวนี้ไม่มีอะไร เป็นเรื่องถูกหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชายทำให้มีอารมณ์ ซึ่งตนได้ขอโทษผู้ใหญ่ และสมาชิกพรรค รวมถึงขอฝากขอโทษไปถึงประชาชนถึงสิ่งที่ปรากฎออกไป วันนี้ไม่ได้มีใครเป็นนักเลง หรือมือปืน แต่น้องชายและคนขับรถที่มาช่วยแจกเสื้อมวย ส่วนที่เข้าไปในห้องนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค เพราะคำพูดที่ถูกเหยียดหยาม ตนคิดว่าไม่ถูกต้องจึงอยากเรียกมาคุย ข้างห้องหัวหน้า
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่ภายในพรรคทั้งหัวหน้าพรรค และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ขอให้ยุติเรื่องนี้ส่วนตัวก็พร้อมที่จะยุติ เพราะตนไม่ใช่นักเลงหัวไม้ เป็นเพียงโปรโมเตอร์เอานักมวยขึ้นชกกันเท่านั้น และเมื่อมติพรรคออกมาว่าให้ยุติเรื่อง ก็ต้องทำตาม เพราะเป็นคนของพรรคต้องรักษากฎกติกาของพรรค
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า สิ่งที่ให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นหนังคนละม้วนกับที่นายยุทธพงศ์ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้นายนวัธ กล่าวว่า นายยุทธพงศ์เป็นคนชอบออกสื่อ ตนไม่ชอบออกสื่อ แต่วันนี้จำเป็น ต้องออกมาพูดว่าไม่มีอะไร และผู้ใหญ่ในพรรคก็นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุนับสิบคน ทุกคนก็คงเห็นและทราบดี ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคตนจึงออกมาขอโทษ และขออภัยกับพี่น้องประชาชนด้วย เรื่องนี้จริงๆ ไม่น่าเกิดขึ้นเพราะเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องมาพูดคุยกันเพราะการที่พูดมาพาดพิงถึงตนนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ใช่สุภาพบุรุษ คนที่เป็นสุภาพบุรุษจะไม่พูดกันแบบนี้ แต่หากใครดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี ลูกผู้ชายคงทนไม่ได้ที่จะต้องมีการเคลียร์กัน
นายนวัธ ยอมรับ ถูกนายยุทธพงศ์ ใช้คำพูดไม่ดีดูถูกเหยียดหยามตั้งแต่เมื่อวันที่พฤหัสบดี ที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่มีการประชุมสภา เรื่องกรรมาธิการทางด่วนส่วนที่นายยุทธพงศ์ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกันแล้ว นายนวัธ กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายยุทธพงศ์ที่จะดำเนินคดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่พามาไม่ใช่มือปืน แต่เป็นคนขับรถของตน อย่างไรก็ตาม เมื่อมติพรรคออกมาว่าให้ยุติเรื่อง เราก็ต้องทำตาม เพราะเราเป็นคนของพรรค ก็ต้องรักษากฎกติกาของพรรค จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องมาพูดคุยกันว่าการที่มาพูดในสภา แล้วมาพาดพิงถึงตนนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ใช่สุภาพบุรุษ คนที่เป็นสุภาพบุรุษจะไม่พูดกันแบบนี้ เพราะเรื่องไม่ใช่ความจริง
ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้อภิญญากุล แกนนำพรรค ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ภายในพรรคให้พานายนวัธมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนกล่าวว่า เป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้มีการถกเถียงกัน แต่ไม่มีอะไรมาก จึงขอให้ทุกคนใจเย็น ซึ่งในส่วนของกรรมการบริหารพรรคก็ได้มีการพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เพื่อขอให้จบเรื่องนี้โดยไม่มีมาตรการลงโทษใดๆ
+ อ่านเพิ่มเติม