ศาล รธน. ไม่เปลี่ยนคำสั่ง ‘ธนาธร’ ยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่-รับคำร้อง 32 ส.ส. ฝ่ายค้าน ถือหุ้นสื่อ
logo ข่าวอัพเดท

ศาล รธน. ไม่เปลี่ยนคำสั่ง ‘ธนาธร’ ยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่-รับคำร้อง 32 ส.ส. ฝ่ายค้าน ถือหุ้นสื่อ

ข่าวอัพเดท : ศาล รธน. ไม่เปลี่ยนคำสั่ง ‘ธนาธร’ ยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่-รับคำร้อง 32 ส.ส. ฝ่ายค้าน ถือหุ้นสื่อ ศาลรัฐธรรมนูญ,ธนาธร,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

2,185 ครั้ง
|
04 ก.ย. 2562
วันที่ 4 ก.ย. 62 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยผลการประชุมองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกคำสั่งที่ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว กรณีที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีการครอบครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังไม่ปรากฎพฤติการณ์ต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว จึงให้ยกคำร้อง 
 
นอกจากนี้ศาลยังนัดอภิปรายสำนวนคดีดังกล่าวในวันพุธที่ 11 ก.ย. เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยว่าจะมีการไต่สวนบุคคล หรือเรียกพยานบุคคลหรือไม่ 
 
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคำร้องของพรรคฝ่ายรัฐบาลที่ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านจำนวน 33 คน ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีการครอบครองหุ้นที่ระบุวัตถุประสงค์กิจการสื่อสารมวลชน 
 
โดยศาลรัฐธรรมนูญได้ปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) กำหนดห้ามบุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ มิใช่เพียงมีเจตนา หรือความประสงค์ จะทำกิจการดังกล่าวเท่านั้น แม้ว่าบางบริษัทมีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจดังกล่าว แต่ก่อนที่ศาลจะรับคำร้องไว้พิจารณา จำเป็นต้องตรวจสอบวัตถุประสงค์ของบริษัทที่ผู้ถูกร้องทั้ง 33 คน ถือหุ้นอยู่ว่าเป็นวัตถุประสงค์ที่จะประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนหรือไม่ 
 
ซึ่งเมื่อตรวจสอบเอกสารตามคำร้องแล้วปรากฏว่า นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการเครื่องเคหะภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงอุปกรณ์การพิมพ์ และสิ่งพิมพ์ ซึ่งไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างของผู้ร้อง กรณีนี้จึงไม่ปรากฏวัตถุประสงค์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสื่อสารมวลชน อันเป็นเหตุให้ความเป็นสมาชิก ส.ส.ของนายวุฒนันท์ สิ้นสุดลง จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้อง เฉพาะกรณีของนายวุฒินันท์ ผู้ถูกร้องที่ 29 ไว้พิจารณา 
 
ส่วนผู้ถูกร้องที่เหลือ อีก 32 คน ศาลเห็นว่า ปรากฎเหตุอันควรสงสัยตามที่ถูกร้อง จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา โดยให้ผู้ถูกร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน 
 
สำหรับพิจารณาคดีนี้ศาลชี้แจงว่า ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงมาก่อน มีเพียงแต่หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัทเป็นหลักฐานเท่านั้น และไม่ปรากฎแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและหนังสือนำส่งรายได้ ทำให้ศาลต้องดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริงให้ยุติเสียก่อน จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง