ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต 2 หนุ่มเมียนมา ฆ่าโหด นทท.ชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า
logo ข่าวอัพเดท

ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต 2 หนุ่มเมียนมา ฆ่าโหด นทท.ชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า

ข่าวอัพเดท : วันที่ 29 ส.ค. 62 ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา ในคดีที่ นายซอลิน หรือ โซเรน สัญชาติเมียนมา จำเลยที่ 1 และ นายเวพิว หรือ ว เกาะเต่า,ประหารชีวิต,2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ,ศาลฎีกา

15,571 ครั้ง
|
29 ส.ค. 2562
วันที่ 29 ส.ค. 62 ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา ในคดีที่ นายซอลิน หรือ โซเรน สัญชาติเมียนมา จำเลยที่ 1 และ นายเวพิว หรือ วิน สัญชาติเมียนมา จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง และถูกเบิกตัวไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีฆาตกรรม น.ส.ฮานนาห์ วิทเธอริดจ์ อายุ 23 ปี และ นายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ที่บริเวณหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2557
 
 
คดีนี้ ศาลจังหวัดเกาะสมุย อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2558 พิพากษาให้จำเลยทั้ง 2 มีความผิดตามฟ้องให้ลงโทษด้วยการประหารชีวิต
 
 
จากนั้นวันที่ 1 มีนาคม 2560 ศาลจังหวัดเกาะสมุย อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 หลังจำเลยได้ขอยื่นอุทธรณ์ โดยคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง
 
 
ล่าสุด ศาลฎีกา มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ในฐานความผิดร่วมกันฆ่านายเดวิด และร่วมกันฆ่านางสาวฮันนา เพื่อปกปิดความผิด, ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันเป็นการโทรมหญิง และจำเลยที่สองถูกพิพากษาในความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คือลักโทรศัพท์และแว่นตากันแดดของเหยื่อ
 
 
ทั้งนี้ในชั้นฎีกาอนุญาตให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริง ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนของจำเลยที่ 2 เท่านั้น ส่วนประเด็นที่จำเลยฎีกาเรื่องการสร้างพยานหลักฐานเท็จ การถูกข่มขู่เพื่อให้ผู้ต้องหารับสารภาพ และการเก็บวัตถุพยาน รวมถึงผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าหลักฐานที่จำเลยฎีกาต่อศาลไม่มีความหนักแน่นพอ 
 
 
หลังจากการตรวจสอบสำนวน และการสอบพยาน ทำให้ฟังไม่ได้ว่ามีการสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อใส่ร้ายจำเลย โดยในชั้นสืบสวนของตำรวจ ไม่ได้มีการพุ่งเป้าไปที่จำเลย โดยเริ่มจากผู้ต้องสงสัยหลายคนในพื้นที่ กระทั่งผลการตรวจดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ และอสุจิในช่องคลอดและทวารหนักออกมา สอดคล้องกับจำเลย จึงนำมาเป็นหลักฐานในการขยายผล และติดตามจับกุมจำเลยทั้งสอง
 
 
ส่วนประเด็นที่จำเลยทั้งสอง ระบุว่าถูกข่มขู่จากตำรวจ และล่ามให้ยอมรับผิด โดยศาลเห็นว่า อาการบาดเจ็บของจำเลยเกิดขึ้นหลังจากที่จำเลยถูกควบคุมตัวแล้ว ซึ่งผ่านขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ศาลจึงเชื่อว่าเป็นคำสารภาพที่เป็นความสมัครใจ
 
 
สำหรับการอ่านคำพิพากษาครั้งนี้ ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อ่านให้จำเลยฟังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ไม่ได้เบิกตัวมาที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย เนื่องจากจำเลยถูกขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง และจำเลยถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตซึ่งเป็นโทษสูงสุด