วานนี้ (21 ส.ค.) นายวิโรจน์ ปิ่นทอง อายุ 51 ปี พร้อมด้วยนายทวีทรัพย์ ปิ่นทอง อายุ 26 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็น พลทหารค่ายแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือทางด้านคดี กรณีลูกชายได้รับอุบัติเหตุตกจากรถยนต์กระบะในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกขาแตกเป็นชิ้นๆ เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ภูมิพล ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะต้องรักษาตัวนานกว่า 1 ปี แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานต้นสังกัด
นายทวีทรัพย์ กล่าวว่า ตนเป็นทหารเกณฑ์โดยการสมัครเข้าไปรับราชการเมื่อปี 2560 ปฏิบัติหน้าที่ที่กรมทหารย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2561 นายทหารชื่อจ่าหลอด ได้ขอกำลังให้ไปช่วยขนย้ายอุปกรณ์สำนักงาน เป็นตู้เอกสารเหล็กขนาดใหญ่ 8 ใบ โดยที่ตนและเพื่อนทหารอีก 1 นายไปช่วยขนย้าย โดยใช้รถกระบะตอนเดียว
เมื่อขนตู้ขึ้นรถกระบะเรียบร้อยแล้ว จ่าหลอดเป็นผู้ขับรถกระบะ โดยไม่ได้ผูกเชือกยึดตู้กับตัวรถยนต์ไว้ เพียงให้ตนทั้งสองยืนพยุงตู้ไว้เท่านั้น โดยตนยืนอยู่ซุ้มล้อหลังด้านซ้ายของรถ ส่วนเพื่อนยืนอยู่ด้านขวาหลังคนขับ
ระหว่างทาง ในซอยวิภาวดี 33 ขณะเข้าโค้ง ตู้เหล็กที่บรรทุกได้ไถลมากระแทกตนอย่างแรงจนขาซ้ายร่วงออกจากรถ ส่วนขาขวาถูกตู้หนีบไว้ จังหวะที่ดันตู้ออกเป็นจังหวะที่จ่าหลอดเปลี่ยนเกียร์ จนรถกระชาก ทำให้ตนเสียหลักตกลงจากรถ และตู้เหล็กก็ตกจากรถตามลงมา แต่จ่าหลอดไม่ทราบเรื่องจึงขับต่อไป กระทั่งเพื่อนทุบหลังคารถบอก ถึงจะจอดรถแล้ววิ่งมาช่วยเหลือ นำส่ง รพ.ภูมิพล
เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเนื่องจากกระดูกขาขวาตั้งแต่ข้อเท้าถึงหัวเข่าแตกเป็นชิ้น อาจจะต้องรักษาตัวนานกว่า 1 ปี ต้องใส่เหล็กดามไว้ตลอดชีวิต และไม่สามารถทำงานหนักได้ ซึ่งการรักษาทั้งหมดใช้สิทธิทหารรักษา แต่ผ่านมาเกือบ 8 เดือน ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จากหน่วยงานและหัวหน้างาน ซึ่งตนกังวลว่าอีกไม่กี่เดือนตนจะปลดทหารแล้วและอาการยังไม่ดีขึ้น เกรงว่าจะไม่สามารถรักษาตัวเองจนหายดีได้
นอกจากจะไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จ่าหลอดยังได้เข้าแจ้งความตนในข้อหา ประมาทเลิ่นเล่อ กระโดดลงจากรถเอง และออกไปนอกกรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ จะดำเนินคดีกับจ่าทหารที่ประมาทเป็นเหตุให้พลทหาร ได้รับอันตรายสาหัส เพราะขับรถให้ทหารเกณฑ์อยู่ท้ายกระบะและไม่มีการผูกมัดสิ่งของ เกิดจากความประมาทของผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งต้องรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา
โดยในวันนี้ ครอบครัวผู้สียหายและทนายความจะเดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อให้เร่งรัดคดีความให้ และเรียกร้องให้มีการเยียวยารักษาพยาบาลจนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ และดำเนินคดีกับผู้ขับในวันเกิดเหตุตามกฏหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม