คลิปจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะรถกระบะคันหนึ่งขับอยู่เลนซ้าย แต่จู่ๆเปลี่ยนเลนไปทางขวากระทันหัน จนเฉี่ยวชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ซึ่งขี่อยู่เลนขวาจนล้มลง ผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วรัชยา ชัยจินดา อายุ 44 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บาดเจ็บสาหัส นอนหมดสติอยู่กลางถนน โดนรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหนีไป ไม่หยุดให้การช่วยเหลือ ซึ่งญาติได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนและขอพลังโซเชียลช่วยตามหากระบะคันก่อเหตุเพื่อกลับมารับผิดชอบ
วานนี้ (20 ส.ค.) นายชัยพฤกษ์ ปัญญาสิทธิ์ อายุ 38 ปี สามีของผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.10-04.00 น. ของวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ภรรยาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักย่านสายไหม เพื่อไปส่งอาหารเหลวให้กับผู้ป่วย โดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้า 5 แยกลาดพร้าว
เมื่อขับขี่มาถึงช่วงประมาณด้านหน้าสำนักงานเขตจตุจักร ได้มีรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เฉี่ยวชนจนรถของภรรยาล้มลง หมดสติอยู่กลางถนน แต่กลับไม่หยุดให้การช่วยเหลือ พร้อมกับเร่งเครื่องหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถยนต์ตามหลังมา ได้เข้าช่วยเหลือพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเปาโล พร้อมทั้งมอบคลิปจากกล้องหน้ารถที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยผู้บาดเจ็บอาการสาหัสมาก ต้องเย็บที่ใต้ตาและใบหน้า รวม 30 เข็ม ซี่โครงหักไปทิ่มม้ามแตก และมีเลือดออกในสมอง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลกว่า 40,000 บาท
ล่าสุดได้ย้ายตัวภรรยามารักษาต่อที่ รพ.ภูมิพลแล้ว ซึ่งภรรยาสามารถสื่อสารได้เล็กน้อย แต่อาการโดยรวมยังต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
ต่อมา ตนได้นำคลิปวีดีโอ เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.วิภาวดี แต่เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า ภาพไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเช้ามืดและมีฝนตก จึงไม่สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนของรถกระบะคู่กรณีได้
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกแย่มาก ไม่คิดว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง จึงอยากวอนให้สื่อ และพลังโซเชียล ช่วยกันติดตาม ผู้ขับขี่รถกระบะคู่กรณีมารับผิดชอบ เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพราะขณะนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก พร้อมฝากถึงผู้ก่อเหตุ หากรู้สึกผิดอยากให้ออกมาแสดงตัวและรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม