จากกรณี น.ส.ธวัลกร แคฝอย ผู้ต้องหาก่อเหตุหลอกลวงชาวบ้าน โดยใช้รถกระบะและนำรถจักรยานยนต์ขึ้นท้ายกระบะเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสานเพื่อก่อเหตุ โดยขับรถจักรยานยนต์ไปในชุมชม เมื่อเห็นเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ ก็ทำทีเข้าไปซักถาม บอกว่ารู้จักกับลูกหรือคนในบ้าน หลังจากนั้นก็หลอกให้เหยื่อไปเก็บผักหลังบ้าน หรือไปทำกับข้าวให้กิน พอสบโอกาสก็เข้าไปค้นทรัพย์สิน-ของมีค่า ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนสิ้นเนื้อประดาตัวเนื่องจากเก็บเงินมาทั้งชีวิต
โดย น.ส.ธวัลกร ถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 62 ซึ่งหลังการจับกุมแล้ว น.ส.ธวัลกร เกิดความเครียดและพยายามฆ่าตัวตายในห้องขัง โดยใช้ชุดชั้นในผูกคอตนเอง แต่ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้ทัน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบว่า น.ส.ธวัลกร ไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยได้ไปขอหมายค้นต่อศาลเพื่อทำการตรวจค้นบ้านของ น.ส.ธวัลกร
จากการตรวจค้น พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ นำมาสู่การขอหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย คือ นายสนอง ไวเชิงค้า ผู้เป็นสามี อายุ 54 ปี โดยถูกจับกุมตัวในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า นายสนอง จะนั่งรออยู่ในรถยนต์คอยสังเกตการณ์ เมื่อก่อเหตุเสร็จแล้ว ก็พากันหลบหนีโดยขนรถจักรยานยนต์ขึ้นท้ายรถกระบะ และตระเวนก่อเหตุเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อได้เงินมาแล้วก็นำมาใช้จ่ายร่วมกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน
โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จะทำการสืบสวนขยายผลติดตาม เพื่อนำเงินและทรัพย์สินมาคืนให้กับตายายผู้เสียหายต่อไป ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวนายสนองส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม