ศาลสั่งจำคุก 3 ปี ให้รอลงอาญา-ปรับ 1 แสน ‘เสี่ยเบนซ์’ เมาแล้วขับ ชน รองตี๋-ภรรยา เสียชีวิต ด้าน ‘เสี่ยเบนซ์’ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คนของ ‘รองตี๋-ภรรยา’ ให้ดีที่สุด
จากกรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงาน เมาแล้วขับรถเบนซ์สปอร์ต ชนประสานงานกับ รถของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือ ‘รองตี๋’ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 2 กองปราบปราม ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร และภรรยา เสียชีวิต ส่วนลูกสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บ โดยจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน พร้อมจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 45 ล้านบาท และได้ประกันตัวระหว่างพิจารณา ในวงเงิน 200,000 บาท
ความคืบหน้าวันที่ 31 ก.ค. 62 นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อฟังคำพิพากษาชั้นต้น ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ยื่นฟ้อง ในฐานความผิดขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด, ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส
โดยในวันนี้ บุตรสาวทั้งสองคนของรองตี๋ คือน้องแพร อายุ 12 ปี และ น้องพลอย อายุ 16 ปี พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่หลายความผิดจึงลงโทษหนักที่สุดตาม พรบ.จราจรทางบก จำคุก 6 ปี ปรับ 2 แสนบาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ มีความสำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน อีกทั้งหลังเหตุการณ์ได้ชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เสียหายจึงไม่ติดใจเอาความ ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี และปรับ 1 แสนบาท
พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามดื่มสุรา และของมึนเมา และต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ใน 2 ปี รวมทั้งกิจกรรมบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี และหากจำเลยไม่จ่ายค่าปรับ จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
หลังฟังคำพิพากษานายสมชาย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย ขอบคุณศาลที่ให้โอกาสและขอบคุณสังคมที่ให้อภัย
หลังจากนี้ จะมอบเงินให้บุตรสาวของ พ.ต.ท.จตุพร 2 คน คนละ 10,000 บาท ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 20,000 บาท รวม 40,000 บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมฝากไปถึง พ.ต.ท.จตุพร และภรรยาขอให้ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี ตนเองขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คนให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ ตนเองตกเป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรให้กับผู้ดื่มแอลกอฮอล์ว่าให้ทำตัวอย่างไร แต่สำหรับตนเองนั้นตัดสินใจจะเลิกดื่มตลอดชีวิต ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ หลังจากเครียดมานานกว่า 3 เดือน
ขณะที่บุตรสาวทั้ง 2 คนรองตี๋ กล่าวว่า ในช่วงแรกยอมรับว่ามีผลกระทบ ทำใจไม่ได้ มีผลกระทบกับการเรียน แต่ก็มีครอบครัวคอยให้กำลังใจทำให้ต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องเลวร้ายไปให้ได้ ดีกว่ามาโกรธแค้นกัน รวมถึงคู่กรณีก็ดูแลเป็นอย่างดี และได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีกับทุกคน หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน
ด้านนางขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ ป้าที่เป็นผู้ดูแลน้องทั้งสองคน กล่าวว่า ครอบครัวเริ่มต้นจากการให้อภัยตั้งแต่แรกที่คู่กรณีเข้าไปกราบแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัวได้พูดกับนานสมชายว่าให้อภัยและขอให้เลิกดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต