7 พรรคฝ่ายค้าน มอง รธน. เป็นปัญหา-อุปสรรค ต่อการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องมีการแก้ไข
logo ข่าวอัพเดท

7 พรรคฝ่ายค้าน มอง รธน. เป็นปัญหา-อุปสรรค ต่อการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องมีการแก้ไข

ข่าวอัพเดท : วันที่ 21 ก.ค. 62 ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ 7 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่, พรรคเพื่อชาติ, พรรคประชาชาติ, พ 7 พรรคฝ่ายค้าน,ฝ่านค้าน,ฝ่ายค้านจัดเสวนา,ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ

1,065 ครั้ง
|
21 ก.ค. 2562
วันที่ 21 ก.ค. 62 ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ 7 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่, พรรคเพื่อชาติ, พรรคประชาชาติ, พรรคเศรษฐกิจใหม่, พรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังปวงชนไทย จัดเสวนา ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ
 
โดยหัวหน้า 7 พรรคฝ่ายค้านต่างมองว่า รัฐธรรมนูญเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องมีการแก้ไข ซึ่งนายสมพงษ์ มองว่าเป็นไปได้ยากที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้มีอำนาจชัดเจน 
 
ดังนั้นสิ่งที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้คือเสียงจากประชาชน ที่จะเป็นพลังสำคัญ ซึ่งภารกิจของ 7 พรรคฝ่ายค้านคือต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม ส่วนประชาชนจะดำเนินการอย่างไร ฝ่ายค้านจะไม่ปลุกระดม แค่ให้ความรู้และความเข้าใจ
 
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งวิธีการแก้ไขคือต้องอาศัยการเข้าชื่อของประชาชน 50,000 คน หรือ การเข้าชื่อของ ส.ส. โดยต้องอาศัยการเข้าชื่อ 1 ใน 3ของ สว.ด้วย แต่ปัญหาคือ ส.ว.ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่ ส.ว.จะเข้าชื่อร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย 
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลานานแต่ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่สิ่งที่สำคัญที่ทำได้เลยขณะนี้คือการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีและที่มาของ ส.ว.ที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งผลมาจากรัฐธรรมนูญ
 
นายวัน มูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดของประเทศไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกไปแต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ฝ่ายค้านจะต้องเดินหน้าทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นเสมือนมะเร็งร้าย เช่น มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2 สมัยเพราะมีวาระอยู่ได้ถึง 5 ปี การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ความหวังความอยู่ที่ประชาชน ช่วยกันแสดงพลังให้เป็นมติมหาชนว่าต้องการแก้รัฐธรรมนูญ
 
ด้าน นายธนาธร เชื่อว่าหากประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย การรัฐประหารยังจะเกิดขึ้นอีก แม้จะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์แต่การรัฐประหารก็ยังไม่จบเพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นเพียงแค่ตัวแทนของระบอบเผด็จการ และหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกครั้ง สถานที่ที่ประชาชนจะรวมตัวต่อต้านรัฐประหารได้ดีที่สุดคือที่สภาผู้แทนราษฏร เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่ารัฏฐาธิปไตยยังอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร และเชื่อว่า สส.ฝ่ายค้านทุกคนจะร่วมกันต่อต้านรัฐประหารร่วมกับประชาชน