หนุ่มแมสเซนเจอร์จอดรถรับโทรศัพท์ขณะติดไฟแดง ถูกใบสั่งข้อหา ‘ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ’ เข้าจ่ายค่าปรับแล้ว ตร.เพียงตักเตือนเพราะทำผิดครั้งแรก พร้อมอธิบายถึงข้อกฎหมาย แม้ว่าจอดรถติดไฟแดงก็ห้ามใช้โทรศัพท์ แนะให้ใช้หูฟังแทน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Guy Thanapon” ได้โพสต์คลิปขณะกำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สน.บางโพงพาง ที่บริเวณหน้าปากซอยตลาดรุ่งเจริญ ถ.สาธุประดิษฐ์ พร้อมสอบถามด้วยความมึนงงว่า “มันมีด้วยเหรอครับพี่ข้อหานี้ ผมจอดรถจักรยานยนต์ริมถนน เพื่อคุยโทรศัพท์ ผมไม่ได้ขับขี่”
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า “ไม่ได้ ถ้าคุณจะจอดรถจยย.ใช้โทรศัพท์คุณต้องลงมาจากรถจักรยานยนต์ไม่ใช่นั่งคร่อมแล้วใช้โทรศัพท์” นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังได้ระบุข้อความอีกว่า “จอดรถรับโทรศัพท์ #แต่คร่อมรถไว้ ผิดกฎหมายโดนจับนะครับ ระวังกันไว้ด้วย #พื้นที่บางโพงพาง”
ล่าสุด วานนี้ (15 ก.ค.) เวลา 15.30 น. นายธนพล วงศ์สุวรรณ อายุ 23 ปี หนุ่มแมสเซนเจอร์ ผู้โพสต์ เดินทางเข้าจ่ายค่าปรับที่ป้อมเปรียบเทียบปรับการจราจร สน. บางโพงพาง พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดติดไฟแดงอยู่ เป็นจังหวะที่โทรศัพท์เข้ามาพอดี ตนจึงรับโทรศัพท์ โดยพูดคุยประมาณ 20 วินาที แล้ววางสาย
ต่อมา สัญญาณไฟจราจรเป็นไฟเขียว ตนก็ขี่รถออกไปตามปกติ ก่อนที่จะถูกตำรวจเรียกให้จอดแล้วให้ใบสั่งในข้อหา ‘ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ’ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ในขณะที่ตนรับโทรศัพท์ ตนจอดรถติดไฟแดงอยู่ ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่แต่อย่างใด เหตุใดจึงโดนใบสั่ง ตนจึงถ่ายคลิปไว้ แล้วนำมาแชร์เพื่อเตือนให้คนอื่นทราบ ก่อนเดินทางมาจ่ายค่าปรับดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น เนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก พร้อมทำความเข้าใจและให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายข้อหาดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางโพงพาง ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถนั้น กฎหมายได้กำหนดอยู่แล้วว่า ไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์ขณะอยู่บนทางสัญจร แม้ว่าจะใช้ในขณะติดสัญญาณไฟแดงก็ตาม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่อบุคคลอื่นได้ แม้ว่าจะจอดรถอยู่
แต่ในระหว่างใช้โทรศัพท์ ผู้ขับขี่ยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์ อาจพลั้งเผลอไปเหยียบคันเร่งหรือมือไปบิดคันเร่งจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ซึ่งกฎหมายเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นการป้องกันคนที่ร่วมใช้ถนนเป็นหลัก แต่หากจอดรถใช้โทรศัพท์ในที่ที่ๆปลอดภัยไม่รบกวนการจราจรของบุคคลอื่นก็สามารถทำได้
ท้ายสุดฝากถึงประชาชน ในการขับขี่รถ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคคลอื่นให้มากที่สุด หากจะใช้โทรศัพท์ในขณขับรถแนะนำให้ใช้หูฟังแทน มิเช่นนั้นจะถูกปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท แล้วแต่กรณี