ศาลตัดสิน คุก 21 ปี 4 เดือน 'บังนัด' ลวงเด็กหญิงวัย12 ข่มขืนในตึกร้าง ย่านรามคำแหง
logo ข่าวอัพเดท

ศาลตัดสิน คุก 21 ปี 4 เดือน 'บังนัด' ลวงเด็กหญิงวัย12 ข่มขืนในตึกร้าง ย่านรามคำแหง

ข่าวอัพเดท : ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 21 ปี 4 เดือน นายสำรวย หรือ บังนัด ลวงเด็กหญิงวัย 12 ปีไปข่มขืนในตึกร้าง ย่านรามคำแหง จำเลยยอมรับสารภาพเป็นประโย บังนัด,สำรวยจิตชื้น,ลวงเด็ก12,ข่มขืน,จำคุก 21 ปี 4 เดือน,ลดโทษ,เหลือ 10 ปี 8 เดือน,ย่านรามคำแหง

2,266 ครั้ง
|
11 ก.ค. 2562
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 21 ปี 4 เดือน นายสำรวย หรือ บังนัด ลวงเด็กหญิงวัย 12 ปีไปข่มขืนในตึกร้าง ย่านรามคำแหง จำเลยยอมรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษเหลือจำคุก 10 ปี 8 เดือน
 
วันที่ 11 ก.ค. ภายหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นายสำรวย จิตรชื้น หรือ บังนัด จำเลยในคดีลวงเด็กหญิงวัย12 กระทำชำเราในตึกร้าง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสำรวย จิตรชื้นอายุ 43 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานพรากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ 
 
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเเล้ว โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า มารดาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดีกับจำเลย ซึ่งพาผู้เสียหายไปกระทำชำเราในตึกร้างย่านรามคำแหง พนักงานสอบสวน จึงพาผู้เสียหาย ไปตรวจร่างกาย ที่รพ.ตำรวจ ผลชันสูตรพบว่าภายในช่องคลอดพบบาดแผลฟกช้ำ มีรอยฉีกขาด จากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินไปทางตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน จากการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด 
 
ต่อมาวันที่ 17 ก.พ. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาพรากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ และกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 13 ปี ในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และมีการนำตัวจำเลยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โจทก์มีผู้เสียหายเป็นพยานเบิกความว่า ขณะพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักจำเลยได้มาชักชวนผู้เสียหายกับน้องลงไปซื้อขนม จากนั้นจำเลยได้ให้น้องสาวผู้เสียหายกลับขึ้นไปยังห้องพัก และพาผู้เสียหายซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ไปยังอาคารร้าง ซึ่งอยู่ตรงข้าม รพ.รามคำแหง ก่อนที่จะลงมือกระทำชำเราผู้เสียหาย โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม เห็นว่าผู้เสียหายเป็นเด็ก และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย หากเหตุการณ์ไม่เป็นความจริงคงไม่นำมาบอกเล่าแก่มารดา เชื่อว่าผู้เสียหายเบิกความไปตามความจริงไม่ปรากฎข้อพิรุธสงสัย 
 
อีกทั้งผลชันสูตรจากรพ.ตำรวจ ที่ระบุว่า พบว่าภายในช่องคลอดของผู้เสียหายพบบาดแผลฟกช้ำ มีรอยฉีกขาด และหลังเกิดขึ้นผู้เสียหายได้เล่าให้มารดาฟัง และได้เดินทางมาแจ้งความทันที จึงไม่มีเหตุสงสัยว่าผู้เสียหายจะกลั่นแกล้งจำเลยคดี จึงรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดข้อหาพรากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ และ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี 
 
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานพรากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ จำคุก 6 ปี, ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จำคุก 10 ปี เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ฐานพรากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ จำคุกปี 8 ปี, และฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จำคุก 13 ปี 4 เดือน รวมจำคุก 21 ปี 4 เดือน 
 
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 10 ปี 8 เดือน โดยในวันนี้ไม่บว่ามีญาติ หรือ ทนายความฝั่งจำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด
 
 
 
 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง