'บิ๊กช้าง' ตอบ 'โรม' ยันไม่ห้ามแสดงออกทางการเมือง แต่จนท.ต้องดูแลความเคลื่อนไหว หวั่นรุนแรง
logo ข่าวอัพเดท

'บิ๊กช้าง' ตอบ 'โรม' ยันไม่ห้ามแสดงออกทางการเมือง แต่จนท.ต้องดูแลความเคลื่อนไหว หวั่นรุนแรง

ข่าวอัพเดท : พล.อ.ชัยชาญ ยันไม่ห้ามแสดงออกทางการเมืองในกรอบกฎหมาย แต่จนท.จำเป็นต้องดูแลความเคลื่อนไหว หวั่นรุนแรง พล.อ.ชัญชาญ ช้างมงคล,นักเคลื่อนไหวทางการเมือง,หวั่นรุ่นแรง,แสดงความคิดเห็นทางการเมือง,ตั้งกระทู้ถามสด

1,658 ครั้ง
|
10 ก.ค. 2562
พล.อ.ชัยชาญ ยันไม่ห้ามแสดงออกทางการเมืองในกรอบกฎหมาย แต่จนท.จำเป็นต้องดูแลความเคลื่อนไหว หวั่นรุนแรง 
 
วันที่ 10 ก.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสด เรื่องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ เพื่อกดดันผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง 
 
นายรังสิมัน โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ และเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานายสิรวิชญ์ได้ขอให้คุ้มครองพยาน แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันเงื่อนไขห้ามยุ่งการเมือง
 
 จึงขอถามว่า เหตุใด พล.อ.ประวิตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยื่นเงื่อนไขว่า ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง และเหตุใดส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามบุคคลที่ต่อต้านคสช. ไม่ให้เคลื่อนไหว และเหตุใดคนที่ต่อต้านคสช.จึงถูกโยงไปเป็นเรื่องความมั่นคง
 
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนสามารถแสดงออกได้ตามกรอบของกฎหมาย และสำหรับกรณีของนายสรวิชญ์ ในมาตรการเชิงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ทางสตช.จึงตั้งจุดตรวจเพิ่มมากขึ้น เพราะทุกท้องที่ก็ไม่อยากให้มีเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ตัวเอง 
 
ส่วนความคืบหน้าคดีของทำร้ายร่างกายนายสรวิชญ์นั้น มีการสอบพยานไปแล้ว 15 ปาก มีการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมาก และคิดว่าในเร็ววันนี้น่าจะออกหมายจับได้ ซึ่งในกรณีนี้จึงมีการเข้าไปดูแล 2 ส่วน คือกรมคุ้มครองสิทธิ ที่จะแจ้งสิทธิในการคุ้มครองพยาน และตำรวจสามารถคุ้มครองพยานตามที่ร้องขอได้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้าม และไม่สามารถห้ามบุคคลหนึ่งคนใดแสดงออกทางการเมือง ที่กระทำด้วยความบริสุทธ์ใจภายใต้กรอบของกฎหมายได้
 
เพราะบุคคลย่อมได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่การที่โยงไปในเรื่องความมั่นคงของรัฐนั้น เมื่อมีการแสดงออกหรือมีกิจกรรมทางการเมือง จะมีประชาชนมารวมตัวจำนวนมาก ย่อมมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือเห็นต่างได้ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามพรบ.ชุมนุมสาธารณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เพราะหากเกิดเหตุขึ้น อาจจะกระทบเป็นวงกว้าง 
 
"ขอเรียนว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ที่จะดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่มาชุมนุมตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนด รวมทั้งดูแลประชาชนทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบด้วยอย่างเท่าเทียมกัน" พล.อ.ชัยชาญ กล่าว 
 
 
 
 
ขอบคุณภาพ : มติชน
 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง