วันที่ 3 ก.ค. 62 นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมวางมือจากตำแหน่งเลขาธิกาพรรค ให้ “คนรุ่นหลัง” เข้ามาสานต่อภารกิจพรรค ภายหลัง พล.ต.ท.วิโรจน์ ยื่นใบลาออก
คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดปัจจุบัน ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ของตนเพื่อให้พรรคจัดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เชิญนักการเมืองของพรรคและสมาชิกพรรรคเข้าหารือและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อมาทำหน้าที่แบกรับภารกิจในสถานการณ์การเมืองใหม่ ช่วงปัจจุบัน
คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน ยืนหยัดอยู่กับพรรคมาโดยตลอดไม่เคยทอดทิ้งไปไหน เพื่อแบกรับภารกิจมาอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนและประคับประคองรัฐบาลประชาธิปไตย ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งขึ้น และเผชิญกับช่วงวิกฤติการณ์ทางการเมืองของประเทศ ในช่วงที่มีการชัตดาวน์ประเทศ สมัยรัฐบาลประชาธิปไตย ของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ จบลงด้วยการเผชิญหน้ากับ คณะรัฐประหาร ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา
คณะกรรมการบริหารพรรค ชุดนี้ได้แบกรับภารกิจต่อเนื่องในการนำพาพรรคเพื่อไทย “ยืนหยัดทำหน้าที่ของตน ในการรักษาอุดมการณ์ประชาธิปไตย ประคับประคองพรรค ในช่วงวิกฤติประเทศ ที่อยู่ภายใต้การบริหารและปกครอง ของคณะรัฐประหารต่อเนื่องตลอดมา”
ตราบจนกระทั่ง เกิดการผ่อนคลาย สถานการณ์ ทางการเมืองครั้งใหม่ ให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายใต้รัฐธรรมนูญและกติกาใหม่ ที่คณะคสช. อำนวยการให้มีการจัดทำขึ้น
คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน จึงได้แบกรับภารกิจต่อเนื่อง อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่หลัง คสช. ประกาศ จะคืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อ 24 มีนาคม 2562 และได้นำพรรคเพื่อไทย ฝ่าอุปสรรคจนได้รับชัยชนะเป็นพรรคการเมือที่มีเสียงข้างมากที่สุดเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ในสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน แต่ด้วยกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงไปจาก กติกาทางการเมืองที่เป็นปกติ แบบเดิมๆ ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ได้ที่นั่งส.ส. เป็นจำนวนมากที่สุด แต่”ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศได้ “ และ “ไม่มีคณะผู้บริหารพรรค ที่ลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อได้เข้าสภาแม้แต่คนเดียว”
หลังการเลือกตั้ง ครั้งนี้เสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทย ……ได้ร่วมมือกับพรรคการเมืองฟากฝ่ายประชาธิปไตย 7พรรคการเมือง จัดตั้ง “แนวร่วมฝ่ายค้าน ของ 7 พรรคการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย” ขึ้นเพื่อแบกรับภารกิจใหม่ เป็นพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่ทางการเมืองต่อจากนี้ไป นับเป็นการ “ ยุติบทบาท ของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ชุดปัจจุบันลงอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ วันที่ 3 กรกฎาคม 2562”
ภารกิจต่อจากนี้ไป เป็นภาระของคนรุ่นหลังที่จะเข้ามาแบกรับภารกิจใหม่ ในสถานการณ์ทางการเมืองใหม่ ที่กำลังจะดำเนินต่อไป
“ส่วนตัวผม ไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง วันนี้ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนเอือมระอากับการต่อรองตำแหน่งมากพอแล้ว เพราะผมเชื่อเสมอว่า ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดหรือ อยู่ในสถานะใด บทบาทใด ผมก็ สามารถที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชนได้เสมอ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง”
“สุดท้ายต้องขอบคุณสมาขิกพรรคและนักการเมืองของพรรคทุกคน ที่ได้ให้ความสนับสนุนและร่วมมือในการทำงานการเมืองร่วมกันมา และเหนือสิ่งอื่นใด ต้องขอขอบคุณทุกการสนับสนุนและ ทุกความห่วงใยที่พี่น้องประชาชนมีและมอบให้พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานชุดพวกผมเสมอมา”
“ยังต้องพบกันอีก เมื่อ ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น”
+ อ่านเพิ่มเติม