หญิงมะกันเล่าประสบการณ์รอดตายปาฏิหาริย์ หลังถูก พนง.รีสอร์ทโหดจับไปทารุณ 8 ชม.

33,325 ครั้ง

31 พ.ค. 2562

แชร์ข่าวไปที่

แทมมี่ ลอว์เรนซ์-เดลีย์ หญิงสหรัฐฯ วัย 51 ปี เธอถูกคนร้ายทุบตีและนำตัวไปทิ้งไว้ในหลุม ระหว่างไปเที่ยวกับครอบครัวในช่วงวันหยุด

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังเดินไปเอาอาหารในรีสอร์ทมาเจสติก เอลิเกน และเธอรู้สึกได้ถึงมีดที่แทงเข้ามาที่หลังของเธอ ทันใดนั้นเธอก็ล้มลงในทันที หลังจากนั้นคนร้ายพยายามลากเธอลงไปชั้นใต้ดิน จับเธอกดน้ำจนหายใจไม่ออก และสำลักอยู่หลายครั้ง เธอพยายามต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดความสามารถ แต่คนร้ายแข็งแรงกว่ามาก

คนร้ายยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาแตะไปที่หัวของเธอ ใช้ไม้กอล์ฟทุบตีเธอ และทิ้งร่างเธอลงไปในหลุมๆหนึ่ง เธอได้แต่คิดว่า ยังไงเธอก็ต้องรอด เธอจะไม่ตายเพราะแค่ถูกฝังในหลุมแน่นอน

และราวกับปาฏิหาริย์เมื่อสุดท้ายแล้วเธอรอดชีวิตมาได้ ทั้งจากการสำลัก โดนทุบตี และถูกฝัง เป็นเวลากว่า 8 ชม. แต่เธอมีอาการสาหัส ต้องเข้ารับการทำศัลยกรรม และยังคงทุกข์ทรมานจากการความเสียหายของเส้นประสาท

ต่อมา เธอจึงตัดสินใจอัปโหลดรูปภาพลงบนเฟสบุ๊ค โชว์ใบหน้าของเธอที่โดยทำร้ายอย่างหนัก และโพสต์ว่าจะอธิบายให้ลูกฟังได้อย่างไร ว่าเราเกือบถูกใครก็ไม่รู้ฆ่า เรารอดมาได้ แต่หน้าเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

เธอระบุว่า ตอนนั้นคนร้ายคิดว่าเธอตายแล้ว แต่เขาพลาด และตอนนี้เขายังลอยนวลอยู่ เขารอเหยื่อคนถัดไปอยู่ แต่ครั้งหน้า หญิงที่โดนทำร้ายคนต่อไปอาจไม่โชคดีเช่นนี้อีก เธอจึงอยากเตือนไม่ให้ผู้หญิงออกมาเดินในสถานที่ๆไม่คุ้นเคยตามลำพัง

อย่างไรก็ดี เรื่องยิ่งหนักขึ้นเมื่อเธอนั้นไม่พอใจที่ทางรีสอร์ทมาเจสติก เอลิเกน ไม่รับผิดชอบค่ารักษาจากเหตุที่เกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งคืนเงินค่าห้องพักเธอเลย โดยทางรีสอร์ทระบุว่า เขาจะไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะอ้างว่า ‘บุคคลที่ทำร้ายเธอนั้นมีโลโก้โรงแรมติดอยู่ที่เสื้อ’