ชายสวมชุดข้าราชการ ขอโทษ 'กู้ภัย' แล้ว เผยเครียดปัญหาชีวิต วอนสังคมให้อภัย
logo ข่าวอัพเดท

ชายสวมชุดข้าราชการ ขอโทษ 'กู้ภัย' แล้ว เผยเครียดปัญหาชีวิต วอนสังคมให้อภัย

ข่าวอัพเดท : ชายสวมชุดข้าราชการด่ากู้ภัยขณะช่วยเหลืออุบัติเหตุ นำพวงมาลัยเข้าขอขมาหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมาแล้ว เผยเครียดปัญหาชีวิต ด่ากู้ภัย,ชายสวมชุดข้าราชการ,วอนสังคม,เครียดปัญหาชีวิต

3,728 ครั้ง
|
29 พ.ค. 2562
ชายสวมชุดข้าราชการด่ากู้ภัยขณะช่วยเหลืออุบัติเหตุ นำพวงมาลัยเข้าขอขมาหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมาแล้ว เผยเครียดปัญหาชีวิต ยืนยันไม่ได้อ้างตัวเป็นปลัด วอนสังคมให้อภัย
 
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ถูกชายสวมชุดกากีด่าทอต่อว่าการทำงานของกู้ภัยด้วยคำหยาบคาย และอ้างตัวว่าเป็นปลัด ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลืออุบัติเหตุ และอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนั้นสภาพการจราจรที่ติดขัด ซึ่งต่อมาทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นข้าราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยในเรื่องดังกล่าว ให้รู้ผลภายใน 10 วัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
 
ล่าสุดวันนี้ (29 พฤษภาคม 2562) เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา นางบุญสิตา ขันธะวินะหุ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้พา นายนันทภพ ฉายดิลก หรืออู๊ด อายุ 49 ปี ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ สังกัดสำนักปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าไปขอขมากับ นายอนันต์ บูรณะบัญญัติ ประธานมูลนิธิฯ และผู้บริหารมูลนิธิฯ โดยนายนันทภพได้นั่งคุกเข่า แล้วนำพวงมาลัยดอกไม้สดมอบขอขมาต่อ นายอนันต์ บูรณะบัญญัติ ประธานมูลนิธิฯ พร้อมกับกล่าวยอมรับผิด และขอโทษต่อสิ่งที่ตนเองทำไป ซึ่งนายอนันต์ได้บอกว่า ไม่ต้องคุกเข่าหรอก แค่ยืนมอบให้ก็พอแล้ว โดยหลังจากนั้นนายนันทภพได้เข้าไปสวมกอดกับนายพุฑฒินันท์ จันทร์รัตน์วิลาส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ถูกด่าทอ และหอมแก้มฟอดใหญ่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น และทีท่าของนายนันทภพก็รู้สึกสำนึกผิดเช่นกัน
 
นายนันทภพ ฉายดิลก ซึ่งเป็นชายที่ใส่ชุดข้าราชการในคลิป เปิดเผยว่า ตนยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากหวังดีอยากจะเข้าไปช่วยระบายสภาพการจราจรติดขัด แต่ด้วยบุคลิกตัวเองที่เป็นคนชอบพูดจาเสียงดัง จึงทำให้เหมือนกำลังใส่อารมณ์ด่าทอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ซึ่งวันเกิดเหตุนั้นตนไม่ได้ดื่มสุรา หรือเมาสุราแต่อย่างใด เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มสุราอยู่แล้ว เพียงแต่ตนเองเครียดกับปัญหาชีวิตหลายเรื่อง โดยก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากเซ็นต์เอกสารเกี่ยวกับการหย่าร้างกับภรรยาที่ สภ.โพธิ์กลาง ที่อยู่ใกล้เคียง ประกอบกับลูกชายของตนก็เพิ่งลาออกจากราชการตำรวจ จึงทำให้เกิดความเครียดสะสมมานานหลายเดือนแล้ว ต้องไปรับยาคลายเครียดจากแพทย์ที่โรงพยาบาลมากินทุกเดือน เป็นเหตุให้มีความเครียดสะสม และระบายอารมณ์ออกตามภาพที่เห็น แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดอ้างตัวว่าเป็นปลัดแต่อย่างใด อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน ดังนั้นการเดินทางมาในวันนี้จึงต้องการที่จะมาขอขมาลาโทษต่อผู้บริหารมูลนิธิฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตนเองพร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานกู้ภัยเต็มที่ และถ้ามีโอกาสก็จะขอสมัครเป็นอาสากู้ภัยของมูลนิธิที่นี่ด้วย ทั้งนี้ตนต้องขอโทษสังคม และยืนยันว่าหลังจากนี้ไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก
 
นายอนันต์ บูรณบัญญัติ ประธานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเรื่องนี้ อยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาต่อคนทั่วไปที่เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฏิบัติงานอยู่ เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นอาสาสมัคร ไม่ได้มีเงินเดือนตอบแทนแต่อย่างใด มาทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อสาธารณะประโยชน์จริงๆ ดังนั้นอะไรที่ให้อภัยกันได้ก็ให้อภัยกัน 
 
ขณะที่นายพุฑฒินันท์ จันทร์รัตน์วิลาส เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ที่ถูกต่อว่าขณะเกิดเหตุ บอกว่า หลังจากนี้ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีก และพร้อมให้อภัย แต่อยากให้ทุกคนช่วยมองเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานเพื่อสังคมจริงๆ และไม่ได้มีรายได้ตอบแทนแต่อย่างใด จึงอยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วย