วันที่ 14 พ.ค. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย หลังจากมีรายงานว่า กองทัพบกได้อนุมัติจัดหารถเกราะล้อยาง M1126 STRYKER จากอัตราสำรองคลังของกองทัพสหรัฐอเมริกาจำนวน 37 คัน (แถม 23 คัน) มูลค่าประมาณ 80 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2,960 ล้านบาท) เพื่อบรรจุในกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแผนการเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยทหารราบ พร้อมยังจะนำเข้าประจำการในหน่วยทหารหน่วยอื่นอีกด้วย
การอนุมัติซื้อรถเกราะล้อยางดังกล่าวไม่มีความเหมาะสม เพราะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ฝ่ายการเมืองยังไม่ได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการอาศัยสถานการณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่มุ่งสนใจไปในการจับขั้วทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อลดข้อครหาหรือจับผิดในกรณีดังกล่าวอย่างน่าละอาย
การจัดซื้อรถดังกล่าวมีข้อสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตัวของ ผบ.ทบ.หรือไม่ เนื่องจาก ผบ.ทบ. เรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐฯ และฝึกหลักสูตรต่างๆ ของสหรัฐมาจนได้ชื่อว่าเป็น ผบ.ทบ.สไตล์อเมริกัน จนสหรัฐฯ ให้ที่นั่งทหารไทยไปฝึก ไปดูงานมาโดยตลอด ตั้งแต่ ผบ.ทบ. เป็นแม่ทัพภาคที่ 1
แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยและ คสช.มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านกระทรวง ตปท. และผ่านอุปทูตสหรัฐประจำประเทศไทย หากแต่มิได้จดจำคำตำหนิ แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศหลายพันล้านบาทไปเป็นเครื่องมือในการสร้างสานสัมพันธ์กัน ซึ่งในอนาคตเราต้องสูญเสียเงินภาษีของประชาชนไปอีกเป็นจำนวนมากกับการสร้าง โรงเก็บ จัดทำสนามฝึก สั่งซื้อชิ้นส่วน การซ่อมบำรุงอีก โดยที่กองทัพไม่เคยบอกประชาชนว่าจะใช้งบอีกเท่าไร
ขณะนี้ในภูมิภาคอาเซียนต่างมีนโยบายลดการแข่งขันการสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์กันแล้ว ต่างมุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจการกินดีอยู่ดีของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะเรื่องปากท้องและการลดความเหลือมล้ำเป็นปัญหาสำคัญของชาติ
ซึ่งขณะนี้คนไทยล้วนเผชิญชะตากรรมข้าวยากหมากแพงกันทั้งแผ่นดิน พืชผลทางการเกษตรตกต่ำเป็นประวัติการณ์ หากแต่กองทัพยังกลับมีนโยบายถอยหลังลงคลองไปในยุคสงครามเย็นถวิลหาแต่การซื้ออาวุธ จะมีบ้างไหม? สักครั้งที่เปลี่ยนผู้นำเหล่าทัพแต่ละคนแล้ว จะไม่มีการจัดซื้อจัดหาอาวุธมาสะสม ขอให้เริ่มต้นในยุค ผบ.ทบ.คนปัจจุบันได้ไหม? หรือให้รอไปจนกว่าจะถึงยุคพระศรีอาริย์ลงมาโปรดกระนั้นหรือ?
+ อ่านเพิ่มเติม