วานนี้ (26 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายร่วมกันฆ่าคนตายกรณีพบศพ น.ส.ปัชญา ปวงสุข หรือน้องเอ๋ย อายุ 22 ปี ที่ถูกคนร้ายนำศพมาโยนทิ้งที่ลำห้วยพระคือ บ้านพระคือ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยพบศพเมื่อค่ำของวันที่ 24 ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ จนท.ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ ตำรวจภูธรภาค 4 ภูธรจังหวัดขอนแก่น และของ สภ.เมืองขอนแก่น ก็ได้ร่วมกันทำการออกตรวจสอบหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นคอนโดแห่งหนึ่งกลางเมืองขอนแก่น จากนั้นก็แกะรอยจากกล้องวงจรปิดและสัญญาณโทรศัพท์ของคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 ได้หลบหนีไปไหน โดยก่อนเกิดเหตุใหม่ๆ นั้น คนร้ายทั้ง 2 ยังอยู่ในตัวเมืองขอนแก่นอยู่ ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่พอมีข่าวว่าพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจึงได้แยกย้ายกันหลบหนีออกจากพื้นที่
โดย จนท.ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องคนแรกได้คือ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา อายุ 26 ปี โดยจับได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ส่วนผู้ต้องหาคนที่2 คือนายธงชัย หรือตั้ม กลางเมือง อายุ 30 ปี จับกุมได้ขณะพักอยู่บ้านเพื่อนที่จังหวัดตราด ส่วนของกลางที่ จนท.ตำรวจทำการยึดได้ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการขนศพ และรถจักรยานยนต์อีกคันซึ่งเป็นรถของผู้ตาย และเสื้อผ้าชุดแต่งกาย รวมทั้งโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา
ส่วนสาเหตุการฆ่ากันตายครั้งนี้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสอง และคนตาย พร้อมด้วยเพื่อนชายอีก 1 คน ประกอบด้วย นายธงชัย กลางเมือง อายุ 30 ปี และน.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา น.ส.ปัชญา ปวงสุข (ผู้ตาย) และนายอธิป พุทธสงกรานต์ พยาน กลับจากไปเที่ยวที่ร้านอาหาร ได้พากันตั้งวงดื่มสุราต่อที่ห้องพักของนายธงชัยฯ ภายในคอนโดแห่งหนึ่งริม ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะตั้งวงดื่มสุรากัน นายธงชัย ไม่พอใจผู้ตายที่ผู้ตายเข้าไปพูดคุยและถ่ายภาพกับผู้ชายคนอื่นขณะอยู่ที่ร้านอาหาร ทำให้นายตั้มซึ่งเป็นผู้ต้องหาและคบกันหากันเป็นแฟนกับผู้ตายไม่พอใจ จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
จากนั้นได้เอาปืนขนาด .38 ออกมาเล่นรัสเซียนรูเล็ตกับผู้ตาย โดยบรรจุกระสุนเข้าในรังเพลิง 2 นัด รอบแรกยิงที่ขมับผู้ตาย แต่ไม่มีกระสุนออกมา รอบที่สองจ่อที่ขมับตัวเองก็ไม่เป็นอะไร รอบที่สามจ่อที่ศรีษะผู้ตายอีกครั้ง กระสุนลั่นเข้าศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ต่อหน้าเพื่อนอีก 2 คน จากนั้นจึงตัดสินใจเอาศพไปทิ้งเพราะกลัวความผิด
ซึ่งขณะเกิดเหตุนายอธิป เห็นท่าไม่ดีจึงได้ใช้กลอุบายบอกว่าจะเข้าห้องน้ำแล้วออกไปซื้อของข้างนอก และไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีกเลย จึงยังคงเหลือแต่ น.ส.ธรรมภัสสร เท่านั้นที่ยังอยู่ด้วยกันกับผู้ต้องหา นายธงชัย หรือตั้ม จึงขอให้น.ส.ธรรมภัสสร ช่วยนำศพผู้ตายไปทิ้ง โดยให้น.ส.ธรรมภัสสร เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ ส่วนนายธงชัยหรือตั้งได้อุ้มร่างผู้ตายพาดไว้ตักและนั่งซ้อนซ้ายมอเตอร์ไซค์นำศพผู้ตายไปทิ้งลงน้ำที่ลำห้วยพระคือ บ้านพระคือ หมู่ 16 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยจุดที่ทิ้งศพอยู่ห่างจากเชิงสะพานประมาณ 150 เมตร กระทั่งวันต่อมาผู้ต้องหาจึงได้ย้ายกันหลบหนีไปและถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งหมดคือคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งจะให้การอย่างไรก็ได้ ขณะที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนพยาน และมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย ได้อย่างแน่นอน
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา หรือนิล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาอีกคนนั้น ขณะนี้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ทุกอย่างไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ที่ศาลเท่านั้น
ทางด้านนางชนัญญา มงคลทรัพย์ แม่ของผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ ผสข.หลังจากทราบว่า จนท.ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วว่า รู้สึกดีใจที่จนท.ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่จะไม่ให้อภัยผู้ต้องหาเด็ดขาด เพราะไม่ทราบว่าจิตใจเข้าทำด้วยอะไร ถึงได้เหี้ยมโหดขนาดนี้ เพราะหลังจากที่ลูกสาวหายตัวไปนายตั้มยังแกล้งโทรมาหาแม่เลยว่าน้องเอ๋ยไปไหน พบตัวหรือยัง อยากให้ลงโทษประหารชีวิตตายไปด้วยกัน
ขณะที่ต่อมาเวลา 18.30 น. จนท.ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธร ภาค 4 ก็ได้ควบคุมตัวนายธงชัย หรือตั้ม กลางเมือง อายุ 30 ปี มาถึง สภ.เมืองขอนแก่น โดยรถยนต์ ฮอนด้า HUV ของทางราชการ ซึ่งหลังจากถูกควบคุมตัวลงจากรถ ทาง จนท.ตำรวจก็ได้ใช้เสื้อคลุมหัวของผู้ต้องหาไว้ เพื่อไม่ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพหน้าผู้ต้องหา และรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นไปยัง สภ.เมืองขอนแก่นทันที โดยมีนางบัวฮอง แก้วเนตร แม่ของนายตั้มผู้ต้องหา และคุณตาพร้อมด้วยญาติพี่น้องอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้มายืนรอรับนายตั้มก่อนนี้แล้ว พากันวิ่งตามหลังนายตั้มไปติดๆ ด้วย เพื่อจะสอบถามลูกของตน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน เนื่องจากมีสื่อมวลชนคอยถ่ายภาพทำข่าวอยู่ตลอดเวลา และใช้เวลาไม่นาน จนท.ตำรวจก็ได้นำตัวผู้ต้องส่งเข้าห้องควบคุมนักโทษทันที
จากการสอบถาม พ.ต.ท.สุพรรณ สุขพิไลกุล รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ที่มารอรับตัวผู้ต้องหา บอกกับนักข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวนผู้ต้องหาใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางมาเหนื่อยๆ อยู่ ต้องรออีกสักพักเพื่อให้ผู้ต้องหาหายเหนื่อยจึงจะนำตัวออกจากห้องคุมข้งมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทันส่งตัวฝากขังที่ศาลในวันนี้ (27 เม.ย.) ก่อนเที่ยง เพราะเป็นวันเสาร์ศาลทำงานครึ่งวัน ส่วนการทำแผนนั้น ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีการทำแผนหรือไม่ ต้องรอคำสั่งจากทางผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่งก่อน