วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ผลการนับคะแนนเลือกตั้งใน จ.เชียงใหม่อย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนนำทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง แต่บางเขต พบกว่าพรรคอนาคตใหม่ตามคะแนนพรรคเพื่อไทยอยู่เพียง 800 คะแนนเท่านั้น
แม้คะแนนของพรรคเพื่อไทยจะมาเป็นอันดับที่ 1 ในทุกเขต แต่คะแนนของพรรคอนาคตใหม่ก็ทำให้เห็นว่า ผู้สมัครแม้จะไม่ได้มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่ก็ถูกเทคะแนนสูงถึงอันดับที่สองในหลายเขต สะท้อนได้ว่าคนในเชียงใหม่ ส่วนใหญ่ยังคงเลือกพรรคการเมืองมากกว่า ตัว ส.ส.
ขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ กำลังติดคะแนนของผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละเขตการเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่ บนป้ายประกาศหน้าสำนักงาน กกต. หลังจากการนับคะแนนของทุกเขตเสร็จสิ้นแล้ว
นายนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เบื้องต้นมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ซึ่งคาดว่ามากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 แต่ผลการรายงานการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่ส่งมาให้ขณะนี้มีแล้ว 6 เขตเลือกตั้ง ส่วนอีก 3 เขตเลือกตั้งคือ เขตเลือกตั้งที่ 1 เขต 5 และ 6 ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยของจำนวนบัตรเลือกตั้ง เนื่องจากบางเขตยอดยังไม่ตรงกัน
แม้ว่าผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจะยังส่งมาที่ กกต.เชียงใหม่ไม่ครบ แต่การนับคะแนนของทุกเขตเลือกตั้งนั้นพบว่า พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเป็นอันดับที่หนึ่งของจังหวัด คือกว่า 371,000 คะแนน ส่วนพรรคอนาคตใหม่ อันดับที่สอง ได้คะแนนกว่า 246,000 คะแนน และตามด้วยพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนไปกว่า 198,000 คะแนน
ประชาชนใน จ.เชียงใหม่ บอกว่า ผลคะแนนที่พรรคเพื่อไทยนำทุกเขตนั้นก็เป็นไปตามคาด แต่ที่พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนมาเป็นอันดับสองก็ถือว่าสะท้อนความต้องการของชาวเชียงใหม่ได้ว่า อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
และแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่และเป็นอันดับที่หนึ่งในทุกเขตเลือกตั้ง แต่ว่าในเขตเลือกตั้งที่ 1 ถือว่าคะแนนไม่ทิ้งห่างกันมาก พรรคเพื่อไทยส่งนางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ลงสมัคร แต่ก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ถึงคู่แข่งคนสำคัญคือ นายพจนารถ ศรียารัณย ที่เป็นคนสนิทของอานางสาวทัศนีย์ และลงสมัครในพรรคพลังประชารัฐ แต่ว่าผลคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ นั้นแซงขึ้นมาเป็นอันดับที่สอง ที่ห่างจากคะแนนของพรรคเพื่อไทยเพียงกว่า 800 คะแนนเท่านั้น
เช่นเดียวกับเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่มองกันว่าคู่แข่งกันอย่าง นายวิทยา ทรงคำ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงแข่งกับนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ จากพรรคพลังประชารัฐ แต่ผลคะแนนก็ทำให้พรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเป็นอันดับที่สอง ที่นำพรรคพลังประชารัฐไปกว่า 5,000 คะแนน
ด้วยความที่เขตเลือกตั้งที่ 1 นั้นมีสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาถึง 12 แห่ง รวมทั้งที่เขตเลือกตั้งที่ 4 ก็มีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งอยู่ด้วย ทั้งสองเขตนี้ทำให้คู่แข่งทางการเมืองจากพรรคเดิมนั้นใจหายกันตลอดเวลาที่นับคะแนนเลยทีเดียว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2554 เคยได้ที่สองในเกือบทุกเขต แต่ครั้งนี้ไม่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของทุกเขตการเลือกตั้ง
+ อ่านเพิ่มเติม