นักวิเคราะห์ มองเลือกตั้งดีเกินคาด แต่เชื่อพรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจโตแบบก้าวกระโดด
logo ข่าวอัพเดท

นักวิเคราะห์ มองเลือกตั้งดีเกินคาด แต่เชื่อพรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจโตแบบก้าวกระโดด

ข่าวอัพเดท : นักวิเคราะห์ มอง เลือกตั้งดีเกินคาด แต่เชื่อพรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจโตแบบก้าวกระโดด เชื่อทั้งปียังไม่ถึง 4% ด้านนักลงท นักวิเคราะห์,กกต,เลือกตั้ง,รัฐบาล,เศรษฐกิจ,ก้าวกระโดด,เลือกตั้ง62

4,940 ครั้ง
|
25 มี.ค. 2562
        นักวิเคราะห์ มอง เลือกตั้งดีเกินคาด แต่เชื่อพรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจโตแบบก้าวกระโดด เชื่อทั้งปียังไม่ถึง 4% ด้านนักลงทุนต่างชาติอยากเห็นเสถียรภาพทางการเมือง หากดีเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้า 1 แสนล้านบาทได้ ชี้หุ้นไทยยังน่าลงทุน แม้วันนี้ลบแต่เช้า แนะหุ้นกลุ่มที่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
 
 
        นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ หรือ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่การเลือกตั้งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะทุกพรรคการเมืองมีนโยบายเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน ทั้งการส่งเงินลงไปสู่ระบบฐานราก และการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงแบบก้าวกระโดด และโตไม่เกิน 4% ซึ่งทิสโก้คาดการณ์จะขยายตัว 3.5% ส่วนเศรษฐกิจปีหน้า จะขยายตัวได้ดีหรือไม่ ต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลว่าเป็นไปด้วยความราบรื่นหรือไม่ และเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ จะมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศมากน้อยเพียงใด 
 
 
       สำหรับนักลงทุนต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่ให้ความสนใจในภาพรวม เสถียรภาพ และความต่อเนื่องของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ รวมถึงการบริหารประเทศ หากตอบโจทย์เหล่านี้ได้ ก็จะรู้ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติจะกลับมาหรือไม่ ซึ่งหากรัฐบาลมีเสถียรภาพในการบริหารงานตามที่คาดการณ์ เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะไหลเข้ามากว่า 1 แสนล้านบาท แต่หากผลเลือกตั้งคะแนนของรัฐบาลและฝ่ายค้านใกล้เคียงกัน อาจจะทำให้เกิดความระส่ำในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจได้ เพราะฝ่ายค้านจะมีอำนาจต่อรองสูง ซึ่งนักลงทุนต่างชาติจะมีความกังวล อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาไม่ถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐได้ 
 
 
        อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง ในช่วงเปิดตลาดเช้าที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งเกิดจากเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นหลัก โดยการปรับตัวลดลงของดัชนีหุ้นไทย ถือว่าไม่น่าห่วง เพราะปรับตัวลดลงกว่าตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหุ้นไทยยังน่าลงทุน เพราะราคาหุ้นยังไม่สูง และแนวโน้มหุ้นไทยยังเป็นบวกอยู่ โดยยังคาดการณ์ปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,750-1,800 จุดได้ขณะที่นักลงทุนควรเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มแบงก์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม