วันที่ 11 มี.ค. 62 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรค ลงพื้นหาเสียงช่วย นายประพนธ์ เนตรรังษี ผู้สมัคร ส.ส เขต 6 หาเสียงที่ชุมนุมนิคมมักกะสัน และตลาดเรียบทางรถไฟโดยได้ร่วมซักถามความเป็นอยู่ของคนในชุมชน และพูดคุยถึงปัญหาปากท้องประชาชน
โดยนายชัชชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ว่า เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่า ควรจะประกาศความชัดเจนตั้งนานแล้ว เพราะพรรคการเมืองอื่นๆ ก็ประกาศแล้วว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
ดังนั้น การที่นายอภิสิทธิ์แสดงท่าทีในช่วงเวลานี้ อาจมีเป้าหมายแบบในทางการเมือง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากให้มีการสืบทอดอำนาจ ซึ่งการทำเช่นนี้อาจจะสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม หากจะให้เกิดความชัดเจนกว่านี้ นายอภิสิทธิ์ก็ควรประกาศด้วยว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังมีคำถามคาใจประชาชนว่า สุดท้ายแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
ส่วนการประกาศจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ครั้งนี้ เชื่อว่า จะไม่กระทบกับคะแนนเสียงของฝั่งประชาธิปไตย เพราะประชาชนที่เลือกฝั่งประชาธิปไตย ได้ตัดสินใจตั้งแต่ต้น ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ จะประกาศ จุดยืนของตนเอง
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคและอุดมการทางการเมืองของแต่ละพรรค แต่ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเพราะต้องรอประเมินหลังการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายชัชชาติยังกล่าวถึงปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มีปัญหาหลายที่ ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องเป็นบทเรียนที่จะมาปรับปรุงให้ดีขึ้น และต้องชี้แจงกับประชาชนให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนจะเกิดการทุจริตขึ้นหรือไม่นั้น ยังไม่เห็นเหตุการณ์ที่ชัดเจน แต่ก็เป็นกังวลเพราะการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมด ไม่ใช่แค่นอกราชอาณาจักร แต่สัปดาห์หน้าจะมีการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ และการเก็บหีบบัตร ก็ต้องทำให้มีความโปร่งใส หากมีข้อกังขาในการเลือกตั้งก็จะทำให้ไม่มีความมั่นใจ และมีผลกระทบตามมา ซึ่งกกต.ต้องแสดงจุดยืน และแสดงความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใส และเดินหน้าต่อไปได้
+ อ่านเพิ่มเติม