เกิดเหตุรถไฟขบวน ยะลา- กทม.พุ่งชนรถกระบะพังยับ 2 สามีภรรยาเสียชีวิตคารถ คาดมองไม่เห็นประกอบกับไม่ได้ยินเสียงสัญญาณฮูดรถไฟเนื่องจากปิดกระจก
(1 มี.ค. 62) เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา พ.ต.ต.ศราวุธ มาลัย สารวัตรเวร สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์กระบะ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณจุดตัดข้ามทางรถไฟนามอญ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญฯ
ที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดข้ามทางรถไฟ บริเวณโค้งนามอญ ไปยังหมู่บ้านนามอญ ต.หนองโสน อ.เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นทางตัดผ่านที่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ใช้ข้ามไปมาระหว่างชุมชนและเข้าในตลาดเมืองเพชรบุรี ลักษณะเส้นทางเป็นเนินสูงชัน และไม่มีเครื่องกั้นทาง ในที่เกิดเหตุพบรถไฟพบรถไฟเร็วขบวนที่ 174 กรุงเทพ-ยะลา จอดอยู่บนรางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร บริเวณไหล่ทางด้านล่างฝั่งหมู่บ้านนามอญ พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีบรอนเทา พลิกตะแคงอยู่ สภาพด้านหน้ารถ และบริเวณประตูหน้าด้านซ้าย มีรอยถูกชนพังยับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตติดภายใน จำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญฯ ใช้เครื่องตัดถ่างตัวรถ และ นำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองรายออกมา ทราบชื่อต่อมาคือ นายมานะ ทัพแก้ว หรือทนายเอ อายุ 43 ปี และ น.ส.วาสนา เหมาะดี อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา ส่วนรถไฟหยุดเดินรถนานกว่า 40 นาที และเดินทางต่อไป
สอบถามเบื้องต้น ทราบว่าขณะเกิดเหตุ นายมานะขับรถกระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อไปส่งน.ส.วาสนา ภรรยา ขึ้นรถโดยสารไปทำงานที่ จ.สมุทรสงคราม คาดว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งและจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้น และลักษณะเป็นเนินสูงจึงมองไม่เห็นรถไฟประกอบกับรถกระบะปิดกระจกรถ ไม่สามารถไดยินเสียงสัญญาณรถไฟ จึงถูกรถไฟขบวนดังกล่าวชนอย่างเต็มแรงและกระเด็นหมุดไปตกข้างทาง ทำให้เสียชีวิตทันที่ ส่วนรถไฟต้องจอดคาสะพานรถไฟก่อนเข้าสถานีรถไฟเพชรบุรีโดยเสียเวลากว่า 40 นาที่ดังกล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม