สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เร่งพิจารณาข้อหารือพปชร.เพื่อเปิดโอกาสให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หาเสียงและดีเบต ยอมรับมีหลายสถานะ มั่นใจ 17 มีนาคมนี้ ผู้ลงทะเบียน2.6ล้านคนใช้สิทธิ์ล่วงหน้า
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กล่าวถึงหนังสือขอหารือของพรรคพลังประชารัฐว่า มีสอบถามเรื่องที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.สามารถขึ้นดีเบตและช่วยหาเสียงได้หรือไม่เพราะเป็นช่วงเวลาที่กกต.กำลังดีเบตของพรรคการเมืองด้วยจึงจะมาร่วมในเวทีของกกต.ได้หรือไม่ ช่วงเวลาแบบนี้ไม่อยากให้พรรคการเมืองใดพลาด ทั้งต้องรอมติกกต.ก่อน ซึ่งกกต.จะพิจารณาจากกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง เพราะพลเอกประยุทธ์ มีหลายสถานะ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อชาติมีการซื้อลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เรื่องไพรมารีโหวต การคัดสรรผู้สมัครเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งต้องดูข้อบังคับพรรคว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการระบุว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรค เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ยังไม่ทราบในรายละเอียด ขณะนี้พูดได้เฉพาะข้อกฎหมายเท่านั้น และการตรวจสอบจะดูว่ามีคนยืนยันกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าจริงหรือไม่ อย่างเรื่องการเก็บบัตรประชาชน เราก็ตรวจสอบอยู่ ดูว่าประเด็นอะไรที่เป็นหน้าที่กกต.เข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเพียง 10 เรื่อง แต่เรื่องกกต.ตรวจสอบเองมี 30 เรื่อง
ส่วนกรณีมีการร้องขอให้พิจารณายุบ 12 พรรคการเมืองที่มีการแก้ไขข้อมูลผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานกกต. ส่วนที่พรรคอ้างว่าระบบฐานข้อมูลของกกต.ไม่เสถียรนั้น ยืนยันว่าระบบกกต.เสถียรและการกรอกข้อมูลสมาชิกพรรค กกต.ไม่ได้เป็นผู้กรอกแต่เป็นพรรคการเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่พรรคจะต้องได้รหัสในการเข้าไปกรอกในระบบ เรื่องการแก้ไขระยะเวลาเป็นประเด็นข้อกฎหมายต้องไปพิจารณากัน
สำหรับการจัดเลือกตั้งล่วงหน้า ขณะนี้ สำนักงานกกต.ได้จัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ไปยังสถานเอกอัครราชและสถานกงสุลที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ไปหมดแล้ว ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ได้เตรียมพร้อมทั้ง 385 หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า มีการประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติอำนวยความสะดวกหน้าหน่วยเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนในหน่วยเลือกตั้งจะมีการจัดสถานที่โดยจะแบ่งเป็นภาคและกระจายเป็นแต่ละจังหวัดและเขต เพื่อให้ประชาชนสะดวกในการใช้สิทธิ์ มั่นใจว่าผู้มาลงทะเบียนกว่า 2.6 ล้านคน จะมาใช้สิทธิ์ทั้งหมด เพราะเป็นการยื่นความจำนงมาขอใช้สิทธิ์เอง แต่ถ้าไม่มาใช้สิทธิ์ในวันที่ 17 มี.ค.จะไม่สามารถไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งที่ 24 มี.ค.ได้ และต้องเสียสิทธิ์บางประการ เช่น ไม่สามารถเข้าชื่อถอดถอนผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือสมัครกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ สำนักงานกกต.จะเริ่มทยอยส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้านไปยังครัวเรือนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.เป็นต้นไป โดยหนังสือจะมีรายละเอียดของผู้สมัคร พรรคการเมือง นโยบายของพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้งของเจ้าบ้านเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้มีสิทธิ์ศึกษาประกอบการตัดสินใจลงคะแนน ขณะเดียวกันบางจังหวัดจะส่งเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน เพื่อให้ทราบข้อมูลว่าจะต้องไปใช้สิทธิ์หน่วยเลือกตั้งที่เท่าไหร่ และเลขลำดับการใช้สิทธิ์
+ อ่านเพิ่มเติม