นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี อันดับ 2 พรรค เพื่อไทย ควง น.ส ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เขต 1 ลงพื้นที่ ตลาดผลไม้สะพานขาว พบชมรมผู้ประกอบการพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาอุปสรรค เรื่องสินค้าการเกษตร โดยผู้ค้าสะท้อนปัญหาว่าการค้าขายลดลงจาก 100% เหลือเพียง 5- 10% เท่านั้น เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ค้าขายไม่ได้ รวมถึงการจัดระเบียบร้านค้าที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นหากจัดระเบียบร้านค้าให้ดีมีกฎกติกาแน่นอนไม่มีนอกมีในการค้าขายจะดีขึ้น ประเทศไทยอยู่ได้เงินสะพัด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรงในสังคมคำพูดว่า เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง จะกลับมาหรือไม่ หรือการลักหลับ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยตอนตี 4 จะกลับมาอีกหรือไม่ รวมทั้งปัญหาคอร์รัปชั่น พรรคเพื่อไทยจะมการแก้อย่างไร และหลังการเลือกตั้งขอให้ประเทศอย่ามีรัฐประหารให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่ผ่านมาให้เป็นบทเรียน แต่หลังเลือกตั้งเราต้องเดินไปข้างหน้าและไม่ว่าพรรคไหนที่เข้ามาบริหารประเทศสิ่งที่ต้องทำคือการสร้างความมั่นใจ ถ้าทุกคนถอดสีเสื้อแล้วใส่เสื้อประเทศไทย แล้วเดินไปด้วยกันตนว่าบ้านเมืองสามารถไปได้ ซึ่งการจัดระเบียบตลาด เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องช่วยกันกับเอกชน เพื่อจัดสถานที่ค้าขาย โดยต้องมีการแบ่งปันกันให้มากๆ เช่นเมื่อไม่ให้ขายในทางเทาก็ให้ขยับไปในที่ว่างของเอกชนเพราะเพิ่งซื้อสินค้าส่วนใหญ่คนซื้อสินค้าส่วนใหญ่ก็มาจากตึกก็มาจากตึกของเอกชนในละแวกนั้นแต่ย้ำอย่างเป็นระเบียบแต่ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ รวมถึงการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยต้องทำตั้งแต่ระดับหัวลงมา ประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบเพราะปัจจุบันสามารถแจ้งข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ และต้องช่วยกันปรับวัฒนธรรมการจ่ายเพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าแม้ทำในสิ่งที่ถูกต้องก็ยังต้องจ่ายเพื่อซื้อเวลาให้เร็วขึ้น ดังนั้นต้องเปลี่ยนทุกคนอย่ายอม ประเทศหากยังมีคอรัปชั่นก็อยู่ไม่ได้หมือนทฤษฎีไอติม งบประมาณได้มา 100 บาท กว่าจะถึงประชาชนไม่ถึงครึ่ง
+ อ่านเพิ่มเติม