'อภิสิทธิ์' รับการเมืองมีส่วนให้เกิดรัฐประหาร
logo ข่าวอัพเดท

'อภิสิทธิ์' รับการเมืองมีส่วนให้เกิดรัฐประหาร

ข่าวอัพเดท : หัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์ ยอมรับการเมืองมีส่วนทำให้เกิดรัฐประหาร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ให้สืบทอดอำนาจ เสนอแนวทางหลุดพ้น หัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์,รัฐประหาร,อภิสิทธิ์,พรรคประชาธิปัตย์,เลือกตั้งปี62

2,409 ครั้ง
|
21 ก.พ. 2562
หัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์ ยอมรับการเมืองมีส่วนทำให้เกิดรัฐประหาร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ให้สืบทอดอำนาจ เสนอแนวทางหลุดพ้น ต้องเลือกพรรคการเมือง เข้าไปบริหารที่ไม่สร้างเงื่อนไขให้ขัดแย้งอีก พร้อมเห็นด้วยกระทรวงกลาโหมชี้แจงงบประมาณมากกว่าทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่หาเสียงเขต 24 ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ หาเสียงช่วยนายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัคร สส. พรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 12 ที่สวนธนบุรีรมย์ และตลาดใหญ่ทุ่งครุประชาอุทิศ61 โดยได้รับการตอบรับจากประชาชน ที่มาออกกำลังกายและมาจับจ่ายซื้อของในตลาด รวมถึงผู้ค้าขอถ่ายรูปเซลฟี่ให้ดอกไม้ ตลอดเส้นทาง พร้อมอวยพรขอให้ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรีกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง 
 
โดยนายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนตื่นตัวอยากเห็นการเลือกตั้ง เพื่อจะได้นักการเมืองเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดนโยบายด้านเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการตัดสินใจ ขณะเดียวกัน ยืนยันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำได้จริง เห็นได้จากการปฏิบัติ ส่วนพรรคภูมิใจไทยประกาศนโยบายข้าวว่า จะให้ส่วนแบ่งชาวนามากกว่าโครงการประกันราคาข้าวของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เข้าใจว่าจะแตกต่างกันเรื่องกลไก เพราะเป็นการนำโมเดลของอ้อยและน้ำตาลมาใช้กับข้าว ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่ดี แต่เป็นไปได้ยากเพราะตลาดข้าวกับอ้อย น้ำตาล แตกต่างกัน มีการตรึงราคา ทำให้ซื้ออ้อยและร้ำตาลได้ในราคาแพง หากใช้โมเดลนี้ ก็จะทำให้ คนไทยซื้อข้าวในราคาแพงเช่นกัน อีกทั้งควบคุมคุณภาพได้ยาก
 
โดยเรื่องนี้ไม่ต้องฟังจากตนเองก็ได้แต่ให้สอบถามจากนักวิชาการ ขณะเดียวกัน เห็นด้วยกับกระทรวงกลาโหมที่ออกมาชี้แจงขั้นตอนการทำงบประมาณและยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองสามารถปรับลดได้ตามสถานการณ์ โดยไม่ต้องหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองจะเสนอนโยบายก็ถือเป็น สิทธิ์ แต่ต้องอธิบายให้ได้ว่ามีการปรับลดด้วยเหตุผลอะไร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่จะทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ กระชับมากขึ้น โดยเชื่อว่ากำลังพลที่ไม่ได้ทำงานด้านความมั่นคง สามารถปรับลดได้ และขอให้วางใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะจัดสรรงบประมาณของกองทัพให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะกองทัพยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ
 
 นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า การเมืองมีส่วนทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ต้องย้อนกลับไปดูสถานการณ์ปฏิวัติ 2 ครั้งที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้ง ทางการเมืองว่า แต่ไม่ใช่เหตุที่จะบอกว่าการรัฐประหารมีความชอบธรรม และให้มีการสืบทอดอำนาจ เป็นคนละประเด็น ซึ่งตนพูดมาตลอดว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันรับผิดชอบและยอมรับว่ากลไกการเมืองล้มเหลว ทำให้เปิดช่องให้มีการรัฐประหาร ดังนั้นแนวทางที่จะก้าวพ้น พรรคประชาธิปัตย์เสนอว่าจะต้องเลือกพรรคการเมืองที่เข้าไปบริหารประเทศแล้วไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาเช่นนั้นอีก โดยเฉพาะบทเรียนที่ผ่านมา คือปัญหาทุจริตคอรัปชั่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง