บิ๊กโจ๊ก จับ เงินกู้นอกระบบเครือข่าย เจี๊ยบ มีนบุรี ยึดทรัพย์ 200 ล้านบาท
logo ข่าวอัพเดท

บิ๊กโจ๊ก จับ เงินกู้นอกระบบเครือข่าย เจี๊ยบ มีนบุรี ยึดทรัพย์ 200 ล้านบาท

ข่าวอัพเดท : (8 ก.พ.62) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อม ตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยวและ ชุด ศปอส.ตร. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้นแหล่ง บิ๊กโจ๊ก,เจี๊ยบ มีนบุรี,นายทุนเงินกู้,ยึดทรัพย์

5,758 ครั้ง
|
08 ก.พ. 2562
(8 ก.พ.62) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อม ตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยวและ ชุด ศปอส.ตร. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้นแหล่งนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เครือข่ายน.ส.กรรณิการ์ ฉลองจันทร์ หรือ ยายเจี๊ยบ มีนบุรี โดยได้ทำการตรวจค้นเครือข่ายยายเจี๊ยบพร้อมกันในกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม30 จุด มีหมายจับผู้ต้องหา28ราย ตรวจยึดและอายัดทรัพย์24จุด ตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง6จุด จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด14คน ยึดของกลางได้ทรัพย์สินรวม205.5 ล้านบาท 
 
โดยค้นภายในบ้านเลขที่ 195/155 หมู่บ้านพนาสนธ์ ถนนนิมิตรใหม่ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหารวม4 คน คือ 1.นายธันวา พลเยี่ยม อายุ26ปีเป็นหัวหน้าโต๊ะเก็บดอกเบี้ยแล้วส่งให้ยายเจี๊ยบ
 
นอกจากนี้ยังจับกุมนายวิชาญ จ่ามา อายุ24ปี นายปฏิวัตร ภูธง อายุ19ปี และนายชัยรัตน์ เนียมรอด อายุ28ปี ลูกน้องของนายธันวาทั้งหมดทำหน้าที่ไปเก็บเงิน หากใครไม่ให้ก็จะข่มขู่ลงมือทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางที่พบทั้งรถจยย. รถยนต์ เงินสด สมุดบัญชีอีกเป็นจำนวนมาก 
 
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดการกลุ่มเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ20-30 ซึ่งในกรุงเทพฯนั้น ลูกหนี้จะวางมัดจำรถ ไม่มีที่ดินเหมือนต่างจังหวัด ซึ่งจะต้องปราบปรามให้หมด เครือข่ายนี้ ทางยายเจี๊ยบมาทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบต่อจากสามีนายไพโรจน์ ฉลองจันทร์ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว กลุ่มเหล่านี้มีเงินหมุนเวียนวันละ100ล้านบาท ใช้วิธีการเก็บเงินรูปแบบแก๊ง เรียกกันว่า แก๊งหมวกกันน็อก ซึ่งจะได้ขยายผลต่อไปยังนักการเมืองรายสำคัญ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป สำหรับในส่วนโต๊ะที่ตรวจค้นในจุดเกิดเหตุนั้น คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า10ล้านบาท 
 
สอบสวนนายธันวา ให้การรับสารภาพว่าตนมีรายได้เดือนละ70,000 บาท แบ่งให้ลูกน้องเดือนละเฉลี่ย9,000 บาทโดยแต่ละวันจะมีรายชื่อให้ลูกน้องไปกระจายทวงดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด มีลูกค้าประมาณ100 คน อยู่ในละแวกย่านมีนบุรีมียอดทวงหนี้เดือนล้านกว่าบาท ถ้าลูกหนี้ไม่มีเงินให้ ก็จะทำการทุบตีทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้บ้านที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นทั้ง3หลังพบเป็นบ้านเช่า เดือนละ13,000 บาท โดยได้เช่าบ้านหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่เดือนก.ย.61 รวมระยะเวลาเช่าบ้าน 6 เดือน -เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา อั้งยี่ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของกลางทั้งหมดจะถูกยึดทั้งหมดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป