นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โชว์ลีลาเชฟลุงตู่ทำสเต๊กเนื้อโคขุนอย่างอารมณ์ดี ระบุอนาคตประเทศอยู่ที่สองมือทุกคนจะขีดเลือกใคร ย้ำปรองดองต้องเกิดขึ้นให้ได้ ลั่นรัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนต้องทำเพื่อส่วนรวม สามารถไปได้ทุกพื้นที่
หลังเสร็จสิ้นการลงพื้นที่จังหวัดยโสธร ช่วงบ่าย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ต่อเนื่องมายังจังหวัดมุกดาหาร ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรโคขุนหนองสูง ตามโครงการยกระดับคุณภาพการผลิตโคเนื้อคุณภาพเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ในปี 2561 มียอดจำหน่ายสูงถึง 294 ล้านบาท และ เปิดป้ายอาคารโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคขุน พร้อมกันนี้ยังเป็นสักขีพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน จำนวน 1021 ราย เนื้อที่กว่า 8 พันไร่ และกล่าวพบปะกับประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก
โดย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า มุกดาหาร ถือเป็นพื้นที่ชายแดน ที่ต้องเปิดศักยภาพให้สูงขึ้น และอยู่ในแผนของรัฐบาลในการพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่การเดินหน้า ต้องมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาแหล่งน้ำให้ครอบคลุม รวมถึงการยกระดับชุมชนชนบท ให้เป็นชุมชนเมืองเพื่อรองรับ พร้อมดึงจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว มาสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องร่วมมือกับรัฐบาล และ ถึงเวลาต้องปฏิรูปตัวเองทั้งหมด โดยเฉพาะเกษตรกรต้องปรับตัวด้วยเทคโนโลยี เพราะการทำเกษตรแบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว พร้อมย้ำการแก้ปัญหาต้องทำให้ได้แบบตนเอง คือ ยึดตามข้อเท็จจริง มีเหตุผลมีผล ไม่ใช่การกล่อมสองคน หรือพูดแบบลอยๆ และ อย่าล้มล้างสิ่งดีๆ ที่มีอยู่เดิม หากคิดแบบนี้สุดท้ายก็ไปไม่ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้บัตรสวัสดิการรัฐต้องไปดูมีระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และถ้า ตั้งใจทำเรื่องนี้ต่อได้อีกหลายระยะ ทั้งหมดเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลที่จะทำต่อไป คงไม่มีใครเลิกเข้าใจว่าอย่างนั้น ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องของสาธารณสุขประกันสุขถาพทั่วหน้า เลิกเรียกบัตรอะไรเสียที เขาเรียกประกันสุขภาพทั่วหน้า คือระบบของรัฐบาลนี้ รวบมาทำทั้งหมดจนดีขึ้น ที่ผ่านมามีแต่ฟรีแต่โรงพยาบาลอย่างประจำตำบลไม่ได้รับการดูแล มันก็เจ๊งหมด ไม่เคยได้งบฯพัฒนามาก่อน แต่จะโทษใครไม่ได้
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงความปรองดองต้องเกิดขึ้น และ รัฐบาล ไม่ว่าพรรคไหน ต้องเป็นของคนทั้งประเทศ ทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่ส่วนตัว สามารถไปเยี่ยมประชาชนได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีความขัดแย้ง จึงขออย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร ซึ่งปีนี้เป็นปีหมูทองของเรา คือ 1.เป็นประธานอาเซียน 2. การเลือกตั้งที่คาดหวังว่าเมื่อมีประชาธิปไตยจะดีขึ้นนั้น ต้องดูสิ่งที่ทำต่อจะดีกว่าเดิม หรือ แย่กว่าเดิม ตนเองไม่สามารถชี้นำได้ และ 3.งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ดังนั้นระมัดระวังแล้วกันประเทศชาติอยู่ในกำมือทุกคนที่สองนิ้วของท่าน ขีดให้ดี แต่จะขีดใครก็เรื่องของท่าน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์แปรรูป ที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อโคขุนและยังได้โชว์ลีลาเชฟลุงตู่ ทำสเต๊กสันในเนื้อโคขุน อย่างอารมณ์ดี และ หยอกล้อตลอดเวลา พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
+ อ่านเพิ่มเติม