'ชูวิทย์' โพสต์เฟซบุ๊คเตือนทุกฝ่ายไม่ควรเสี่ยง ชี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระ ซัดทำตัวเป็นหมาบ้า จะเสียใจทีหลัง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค ชูวิทย์ I'm No.5 ว่า
สู้ไม่ถอย
เมื่อคืน M-79 ถล่มบ้านคุณสุเทพอีกครั้ง ภรรยาคุณสุเทพ "ศรีสกุล พร้อมพันธุ์" ยืนยันว่า "สู้ไม่ถอย"
ผมเทิดทูนหัวใจของคุณศรีสกุล ในฐานะผู้ยืนเคียงข้างสามี คุณสุเทพ เลขา กปปส. และเป็นแม่ของคุณเอกนัฏ โฆษก กปปส. ที่กล้าหาญ เอาชีวิตของสามีและลูกมาเสี่ยง แต่ไม่ใช่ชีวิตครอบครัวของคุณศรีสกุลเท่านั้น ยังรวมไปถึงชีวิตใครต่อใครในประเทศไทย ที่ต้องร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันไปด้วย
แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็เสี่ยงกับคุณสุเทพ เพราะหากตัดสินใจกระโดดเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ย่อมได้รับคะแนนเสียงล้นหลามจากผู้มีหัวใจรักความเป็นธรรม ล้มระบอบทักษิณได้ด้วยความชอบธรรม สามารถดำเนินการเรื่องปฏิรูปตามที่ปรารถนา สังคมโลกยอมรับ ไม่มีใครคัดค้าน
ศัตรูการเมืองอย่าง นปช. ก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเอาคุณจตุพรมาเป็นประธาน เพิ่มดีกรีความร้อนแรงทางการเมือง ให้แลกหมัดวัดดวงกัน เสี่ยงหนักเข้าไปใหญ่
เศรษฐกิจของประเทศไทย การท่องเที่ยว ธุรกิจค้าขาย ก็ไม่ต้องมาเสี่ยงเหมือนอย่างครอบครัวคุณสุเทพ เพราะสิ่งเดียวที่คุณสุเทพทำได้คือ "พูด" เหมือนที่ทำอยู่ในสภามากว่า 30 ปี
องค์กรอิสระต่างๆก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยง เอาความน่าเชื่อถือมาแลกกับคุณสุเทพ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศแบบเสี่ยงๆ
คุณศรีสกุล ภรรยาของคุณสุเทพจึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องสู้ไม่ถอย เพราะการสู้ไม่ถอยที่ว่า เป็นการสู้กับคนไทยด้วยกันเอง ไม่ใช่สู้กับต่างชาติที่มารุกราน หากคุณศรีสกุลเข้าใจหัวอกคนเป็นภรรยาหรือเป็นแม่ของครอบครัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตำรวจ ครอบครัวคนทำมาหากิน ที่ทุกวันนี้ต้องเสี่ยงกับการกระทำของคุณสุเทพ เอาอนาคตประเทศไทยไปเสี่ยง
หรือแม้แต่การกระทำของ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ทายาท "โนเบิล" คอนโดดัง ที่ไม่เชื่อกฎของธุรกิจที่ว่า "อย่าไปยุ่งกับการเมือง" ไปเป่านกหวีดไล่คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง และโพสต์คลิปตัวเองโชว์ในยูทูบ ก็ต้องเสี่ยงกับผลกระทบทางธุรกิจ แม้ตัวเองไม่กลัว แต่ยังมีครอบครัวของบรรดาพนักงานในบริษัทอีกมากมาย ที่อาจไม่เห็นด้วยกับการเสี่ยง หรือลูกค้าที่ซื้อคอนโดอีกไม่น้อย ที่อยากจะคืนคอนโดที่ซื้อไป เพราะต้องมาเสี่ยงกับความปลอดภัยในการอยู่อาศัยคอนโดโนเบิล
ไม่ว่าคุณทยา ทีปสุวรรณ ที่ไปเป่านกหวีดแล้วโชว์คลิปอวดแบบเดียวกัน ทำให้แม่ตัวเองต้องเสี่ยง หรือคุณสาธิต เซกัล ที่เสี่ยงกับสถานะที่ต้องถูกเนรเทศ หรือคุณจิตภัสร์ กฤดากร ที่ถูกครอบครัวต่อว่า เอาธุรกิจครอบครัวไปเสี่ยง จนถึงกับต้องเปลี่ยนนามสกุล
คุณค่าของความเสี่ยง ขึ้นอยู่กับผลตอบแทน เสี่ยงมาก ได้ผลตอบแทนมาก เสี่ยงน้อย ได้ผลตอบแทนน้อย แต่สิ่งที่คุณสุเทพเสี่ยง มันไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย ท้ายสุด องค์กรอิสระสามารถเป็นที่พึ่งได้ตามกฎหมาย
ไม่มีใครต้องเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศชาติ หากเสี่ยงแล้วคุ้ม สมควรจะเสี่ยง แต่เสี่ยงแบบโง่ๆ ทำตัวเป็นหมาบ้า ผ่านไปไม่กี่ปีแล้วจะมานึกเสียใจ ว่าเสี่ยงทำลงไปได้ยังไง?