วันที่ 3 ก.พ. 62 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.โชคชัย นำหมายค้นเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณแขวงและเขตลาดพร้าว หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าอาจจะมีคนถูกกักขังอยู่ภายในอาคาร
นางปวีณา ระบุว่ามีพลเมืองดีเห็นแขนของผู้ชายยื่นออกมาจากช่องประตูเหล็กที่ถูกใส่กุญแจอยู่ด้านนอก บางคนก็จะเห็นหญิงสูงวัยคาดว่าเป็นแม่หรือญาตินำอาหารมาให้ผ่านทางประตู เกรงว่าอาจจะถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี อีกทั้งยังน่าจะเป็นผู้ป่วย หากปล่อยไว้เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงต้องรีบเข้าช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบชายอายุประมาณ 30-40 ปี นอนอยู่กับพื้น พูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายกับคนเป็นใบ้ มีลักษณะแขนขาลีบเล็กอ่อนแรง สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นผู้ป่วยออทิสติก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลยันฮีเพื่อตรวจร่างกายและเข้ารับการรักษาตามกระบวนการ
พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการ สน.โชคชัย ระบุว่า นอกจากผู้ป่วยแล้ว ยังพบหญิงสูงอายุอีกคนอยู่ภายในบ้าน เบื้องต้นอ้างว่าเป็นแม่ของชายคนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ลูกชายเคยประสบอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการป่วย และไม่ได้ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงต้องอยู่แต่ภายในบ้าน
อย่างไรก็ตามตำรวจต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ และจะเข้าข่ายการกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือไม่ แต่ภายในบ้านก็ไม่ได้มีลักษณะของการถูกพันธนาการ ทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกายใดๆ
จากการสอบถามเพื่อนบ้านและคนที่อยู่ในละแวก ระบุว่า เห็นชายคนดังกล่าวมีลักษณะพัฒนาการทางสมองช้าตั้งแต่เด็ก อาศัยอยู่กับแม่สองคน และเคยออกมานอกบ้านจนเกือบถูกรถชน ทำให้ผู้ปกครองต้องดูแลให้อยู่แต่ภายในบ้านของตนเองมานานหลายสิบปีจนกระทั่งโต
แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องในลักษณะขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งแม่และลูกก็อยู่กันตามปกติ ไม่เคยเห็นว่าคุณป้าแม่ของชายคนดังกล่าวจะเคยทำร้ายร่างกายลูกชายสักครั้งเดียว ซึ่งกิจวัตรประจำวันของผู้เป็นแม่คือจะออกไปให้อาหารสัตว์ตามซอยต่างๆ ก่อนกลับมาดูแลลูกชาย ป้อนข้างป้อนน้ำ ตัดผมอาบน้ำ ไม่เห็นว่าจะเป็นการกักขังแต่อย่างใด
ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าภายในที่พักพบเศษขยะจำนวนมาก ถือว่าไม่ถูกสุขลักษณะและไม่เหมาะเป็นที่พักอาศัยของผู้ป่วย ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าวเข้ามาดูแลต่อไป แต่ในส่วนของต้นไม้ด้านหน้าบ้านพักไม่ถือว่าบุกรุกพื้นที่สาธารณะเพราะอยู่หลังแนวเสาไฟฟ้าจึงยังถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่
+ อ่านเพิ่มเติม